นิคลาส ฟืลล์ครุก พาทีมชาตเยอรมันหนีความพ่ายแพ้ ด้วยการยิงประตูตีเสมอ สวิตเซอร์แลนด์ ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ พร้อมกับคว้าแชมป์กลุ่ม เอ ในรายการ ยูโร 2024
แดน เอ็นดอย ที่ประเดิมทีมชาตินัดแรกยิงประตูให้ สวิตเซอร์แลนด์ขึ้นนำ 1-0 ซึ่งหากเกมจบลงด้วยสกอร์นี้ สวิตเซอร์แลนด์ จะกลายเป็นแชมป์ของกลุ่มทันที แต่ว่า เยอรมนี มาได้ประตูตีเสมอในช่วงทดเวลาบาดเจ็บของครึ่งหลังจาก นิคลาส ฟืลล์ครุก ส่งผลให้ สวิตเซอร์แลนด์ เข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายในฐานะรองแชมป์ของกลุ่มนี้
เริ่มเกม เยอรมัน ได้โอกาสทักทายก่อนเปิดเกมมา 17 นาที เจ้าบ้านส่งบอลตุงตาข่าย ฟลอเรียน เวียร์ทซ์ ไหลให้ โรเบิร์ต อันดริช ซัดจากระยะ 25 หลาเสียบตาข่าย แต่ VAR ไม่ให้เนื่องจากมีจังหวะฟาวล์ก่อนหน้า
อย่างไรก็ตามเด็กๆ ของ ฌูเลี่ยน นาเกลส์มันน์ ต้องช็อค เมื่อโดนนำครั้งแรกของรายการนาทีที่ 28 “ทัพนักเตะแดนนาฬิกา” ได้บุก เรโม่ ฟรอยเลอร์ รับบอลในเขตโทษด้านซ้านก่อนเปิดถึง แดน เอ็นดอย ชาร์จเข้าประตูไป สวิส ออกนำ 1-0 พร้อมหมดครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้
ต่อมา เอ็นดอย ยังสร้างโอกาสให้กับ สวิตเซอร์แลนด์ เรื่อยๆ แต่ก็ทำอะไรไม่ถนัดเพราะโดน รูดิเกอร์ ประกบ
กลับมาเล่นครึ่งหลังนาทีที่ 50 “อินทรีเหล็ก” เกือบได้ประตูตีเสมอ ฟลอเรียน เวียร์ทซ์ จ่ายขึ้นหน้า จามาล มูเซียล่า สอดมารับก่อนตะบันบอลตรงตัว ยานน์ ซอมเมอร์ ยืนทุบทิ้ง
โทนี่ โครส ลองเปิดบอลต่ำเข้ากดดันกองหลัง สวิตเซอร์แลนด์ ก่อนที่ ไค ฮาแวร์ตซ์ จะโหม่งข้ามคานออกไป
โจชัว คิมมิช มีโอกาสดีที่จะตีเสมอให้กับ เยอรมัน ในนาทีที่ 71 แต่ก็โดน มานูเอล อคานยี่ บล็อคเอาไว้ได้
วาร์กาส ได้หลุดไปดวลตัวๆ กับ นอยเออร์ แต่ก็โดนจับล้ำหน้าไปก่อน
นอยเออร์ ได้ทำผลงานในเกมของพวกเขาแล้วในศึกยูโร 2024 เนื่องจากเขาเป็นผู้ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในทัวร์นาเมนต์สำคัญๆ เช่นเดียวกับ ฟิลลิป์ ลาห์ม
เกมทำท่าจะจบแต่แล้วในช่วงทดเจ็บนาทีที่ 90+2 ดาวิด เราม์ พาบอลขึ้นทางซ้ายก่อนเปิดเข้าหัว นิคลาส ฟืลล์ครุก โขกเสียบตาข่ายให้ เยอรมนี ตีเสมอ 1-1 สำเร็จ
ตอนนี้ ในการเริ่มต้นครั้งที่ 37 ของเขา มีเพียงคริสติโน่ โรนัลโด้ (45) เท่านั้นที่เล่นได้มากกว่าเขาทั้ง ยูโร และ เวิลด์คัพ มากกว่าเขา ในขณะที่ตำแหน่งผู้รักษาประตู เขาเหนือกว่า จิอันลุยจิ บุฟฟ่อน อยู่ 18 เกม
เด็กอายุ 38 ปีไม่สามารถทำผลงานได้ดีนักด้วยการคว้าชัยชนะ แต่ทั้งๆ ที่ชาวเยอรมันยังรออีกนานเพื่อชัยชนะเมื่อเริ่มต้นครึ่งเวลา ถึง 11 รายการในตารางการแข่งขัน (D3 L8)
สุดท้ายนี้พวกเขาชนะในยูโร 1976 และยูโกสลาเวีย (2-0 ลงในช่วงพักครึ่งแรก, ชนะ 4-2) อย่างน้อยก็สามารถเฉลิมฉลองหลังจากดราม่าที่แฟรงก์เฟิร์ตได้
ปารีส แซงต์ แชร์กแมง สานต่อฟอร์มอันน่าประทับใจในศึกแชมเปี้ยนส์ลีก ด้วยการเอาชนะท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ 5-3 ที่สนามปาร์ก เดส์ แพร็งซ์ เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ด้วยแฮตทริกแรกในอาชีพอันน่าตื่นเต้นของวิตินญ่า เกมเริ่มต้นขึ้นอย่างรวดเร็ว เมื่อควิช่า ควารัตสเคเลีย… อ่านเพิ่มเติม
ประตูสุดดราม่าของมาเรีย คิเมเนซ ในช่วงท้ายเกม ช่วยให้แอตเลติโก มาดริด เก็บสามแต้มสำคัญได้สำเร็จ ในเกมแชมเปี้ยนส์ลีก นัดที่ 5 ที่พบกับอินเตอร์ มิลาน ทีมจากลาลีกา เฉือนชนะด้วยลูกยิงสุดสวยในนาทีที่ 93 ของคิเมเนซ… อ่านเพิ่มเติม
อาร์เซนอล เอาชนะ บาเยิร์น มิวนิก 3-1 ที่สนามเอมิเรตส์ สเตเดียม ได้อย่างขาดลอย ส่งผลให้พวกเขารั้งตำแหน่งจ่าฝูงทั้งพรีเมียร์ลีกและแชมเปียนส์ลีก เดอะ กันเนอร์ส โชว์ฟอร์มได้อย่างมั่นใจและควบคุมเกมได้ดี ตอกย้ำว่าทีมของ มิเกล อาร์เตต้า… อ่านเพิ่มเติม
วิลเลียน เอสเตเวา นักเตะดาวรุ่งพุ่งแรงของเชลซี กำลังตกเป็นข่าวเชื่อมโยงกับการย้ายทีมอีกครั้ง หลังจากที่อังเดร คูรี เอเยนต์ของเขา เผยว่ายังมีความเป็นไปได้ที่จะย้ายไปบาร์เซโลน่าในอนาคต ข้อเสนอนี้เกิดขึ้นไม่ถึง 24 ชั่วโมงหลังจากที่ดาวเตะวัย 18 ปีโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมในเกมที่เชลซีเอาชนะบาร์เซโลนาของฮันซี ฟลิค 3-0… อ่านเพิ่มเติม
เอ็ดดี้ เฮิร์น โปรโมเตอร์ของแอนโธนี โจชัว เปิดเผยว่าทีมของเจค พอล ได้สอบถามโจชัวว่าสามารถลดน้ำหนักลงก่อนการแข่งขันวันที่ 19 ธันวาคมได้หรือไม่ สิ่งที่หลายคนมองว่าเป็นเรื่องตลกในตอนแรก ในที่สุดก็ได้รับการยืนยันเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เมื่อโจชัวและพอลเผชิญหน้ากันเป็นครั้งแรก ความแตกต่างทางกายภาพระหว่างทั้งคู่นั้นเห็นได้ชัดเจนมาก โดยโจชัวนั้นสูงกว่าอดีตยูทูบเบอร์ผู้นี้ อย่างไรก็ตาม… อ่านเพิ่มเติม
เชลซีโชว์ฟอร์มน่าประทับใจที่สุดครั้งหนึ่งในยุโรปในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ด้วยการถล่มบาร์เซโลนาที่เหลือ 10 คน 3-0 ที่สแตมฟอร์ด บริดจ์ ชัยชนะครั้งนี้พาทีมจากพรีเมียร์ลีกขึ้นสู่อันดับ 4 ของตาราง และพร้อมลุยศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้ายโดยอัตโนมัติ… อ่านเพิ่มเติม