ลิเวอร์พูล ทีมในพรีเมียร์ลีกผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศของยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ฤดูกาล 2021/2022 หลังจากเอาชนะบียาร์เรอัล 3-2 เมื่อคืนวันอังคารที่เอสตาดิโอ เด ลา เซรามิกา
หลังจากชนะเลกแรกที่ 2-0 ที่สนามแอนฟิลด์ ลิเวอร์พูล ตามหลังก่อน 0-2 ในครึ่งแรกของเลก 2 ที่เซรามิกา
บูลาเย่ เดีย นำเรือดำน้ำสีเหลืองอยู่ข้างหน้าหลังจากผ่านไปเพียงสองนาที ในขณะที่ฟรานซิส โกเกอแล็ง อดีตกองกลางอาร์เซนอลทำให้มัน 2-0 ในคืนนี้และรวม 2-2 โดยรวมแล้วทำให้เสมอกันในสมดุล
ทีมของ อูไน เอเมรี่ คุมสถานการณ์ได้หมดใน 45 เกมแรก ก่อนที่ ลิเวอร์พูล กลับมาได้ในครึ่งหลัง
เจอร์เก้น คล็อปป์ ให้ หลุยซ์ ดิอ๊าซ ลงมาแทน ดิโอโก้ โชต้า ในนาทีที่ 62 ฟาบินโญ่ ยิงตีตื้นให้กับ ลิเวอร์พูล ไล่ขึ้นมาเป็น 2-1 และตีเสมอได้ใน 5 นาทีต่อมาจาก ดิอ๊าซ
ซาดิโอ มาเน่ ยิงประตูชัยให้กับทีมในนาทีที่ 74 ขณะที่ลิเวอร์พูลชนะเกม และผลรวมรวม 5-2
ในขณะเดียวกัน บียาร์เรอัล ต้องเหลือ 10 คน เมื่อ เอเตียน กาปูเอ ได้ใบเหลืองแดง ในนาทีที่ 86
ลิเวอร์พูลเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศไปแล้วสิบครั้ง เป็นรอเพียง เรอัล มาดริด, เอซี มิลาน และบาเยิร์น มิวนิคเท่านั้นที่เข้าถึงรอบชิงชนะเลิศได้มากกว่า เรอัล มาดริด ที่ทำได้ 16 ครั้ง ในรอบสุดท้าย เอซี มิลาน และบาเยิร์น เข้ารอบ 11 ครั้งตามลำดับ
ฟาบินโญ่ มิดฟิลด์ของลิเวอร์พูล เปิดเผยว่าชาวสเปนใช้เวลา 15 นาทีแรกอย่างจริงจัง และทำสองประตูให้เจ้าบ้านมั่นใจ
“พวกเขาทุ่มสุดตัวในครึ่งแรก เรารู้ว่า 15 นาทีแรกจะมีความสำคัญจริงๆ พวกเขายิงได้เร็ว และทำให้พวกเขามีความมั่นใจ และแฟนบอลก็รู้สึกได้ มันเป็นครึ่งแรกที่ยากสำหรับเรา บางทีอาจจะยากที่สุดของ ฤดูกาล แต่คุณต้องพร้อมสำหรับทุกอย่างและพยายามเล่นฟุตบอล” ฟาบินโญ่กล่าว