ซึ่งก่อนการแข่งขัน วงการเทคบอลต่างล่วงรู้กันดีว่า ศึกเทคบอลชิงแชมป์โลก 2023 ที่จัดขึ้นยังประเทศไทยจะถูกจารึกประวัติศาสตร์แน่นอน จากการที่มีนักกีฬาเข้าร่วมแข่งขันมากที่สุดจำนวน 210 คน จาก 60 ประเทศที่ส่งทีมเข้าร่วมแข่งขัน มากกว่า World Teqball Championships ที่เคยจัดการแข่งขันมาก่อนหน้าทั้งหมด 6 ครั้ง
DafaNews รายงานว่า จากการแข่งขันศึกชิงแชมป์โลกครั้งแรกในปี 2017 และจัดขึ้นทุกปีเพื่อให้นักกีฬาชิงชัย โดยเว้นวรรคในปี 2020 จากช่วงสถานการณ์โควิด-19 นั้น ทุกครั้งการจัดการแข่งขันจะถูกเนรมิตขึ้นบนพื้นที่ของทวีปยุโรป เริ่มจากบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี ต้นตำรับกีฬาเทคบอลที่ได้จัดแข่งขัน 2 ครั้งคือ ครั้งที่ 1 และ 3 (2017 และ 2019) ก็ถูกไล่เรียงด้วยแรงส์ ประเทศฝรั่งเศส (2018) กลิวิเช่ ประเทศโปแลนด์ (2021) และนูเรมแบร์ก ประเทศเยอรมัน (2022) นั่นจึงทำให้ประเทศไทยเป็นประเทศแรกจากต่างทวีปที่ได้รับสิทธิ์เป็นเจ้าภาพ
เทคบอลชิงแชมป์โลก 2023 ก็ไม่ได้ทำให้แฟนเทคบอลทั่วโลกต้องผิดหวัง จากบทพิสูจน์ความยอดเยี่ยมในฐานะเจ้าภาพของประเทศไทย ขณะที่การแข่งขันก็สนุกครบรสทั้งดราม่า ระทึกใจ การพลิกผัน และตอนจบราวกับเทพนิยาย ที่ทั้งหมดเกิดขึ้นในกรุงเทพฯ ที่ทำให้การแข่งขันชิงแชมป์โลกครั้งนี้เป็นที่น่าจดจำ เช่นเดียวกับตัวเลข และสถิติที่มีความน่าสนใจไปอีกตามกัน
ดังนั้น ก่อนจะไปทบทวนบทสรุปที่น่าสนใจในศึกเทคบอลชิงแชมป์โลก 2023 นั้น ขอชี้แจงให้ชัดเจนว่า หมวดหมู่ทางสถิติเหล่านี้แตกต่างจากหมวดหมู่ปกติ เนื่องจากไม่ได้แยกออกเป็นประเภทเดี่ยว ประเภทคู่ หรือเพศของผู้เข้าแข่งขัน สุภาวดี วงศ์คำจันทร์ ผู้เล่นทรงคุณค่าศึกชิงแชมป์โลก 2023
หากตรวจสอบว่าใครเป็นผู้เล่นที่โดดเด่นที่สุดในแง่ของผลต่างคะแนนรวมสูงสุดต่อนัด จะเห็นได้อย่างชัดเจนว่า นักเทคบอลเพียงคนเดียวที่คว้า 2 เหรียญทองศึกชิงแชมป์โลก 2023 อย่าง “สุภาวดี วงศ์คำจันทร์” จะมีคะแนนในอันดับต้น ๆ จากคะแนนสูงถึง 15.64 คะแนน ซึ่งเรียกได้ว่าไม่น่าแปลกใจเลย
ขณะที่ผู้เล่นที่มีคะแนนตามมา ประกอบด้วย เอสเตอร์ วิอานา เมนเดส จากบราซิลที่มาเป็นอันดับสองด้วยตะแนน 13.00 ก่อนที่อันดับถัดไปจะเป็นอีกหนึ่งนักเทคบอลสาวไทยอย่าง “หยก” จุฑาทิพย์ กันทะธง ซึ่งคว้า 1 เหรียญทองประเภทหญิงคู่ และอีก 1 เหรียญเงินประเภทหญิงเดี่ยวด้วยคะแนน 12.33 ต่อด้วยคริสซ์ตินา แอคส์ จากฮังการี ที่เก็บเหรียญทองแดงในประเภทคู่ผสมกลับบ้านในอันดับสี่ด้วยคะแนน 11.86 และปิดท้ายในพื้นที่ท็อป 5 ของสถิตินี้ด้วยผู้เล่นชายหนึ่งเดียวอย่างซาบา บานยิค ที่คว้าเหรียญทองประเภทชายคู่ และเหรียญทองแดงประเภทคู่ผสม ด้วยคะแนน 11.73 คะแนน
นั่นจึงไม่ต้องสงสัยเลยว่า สุภาวดี วงศ์คำจันทร์ จะเป็นผู้เล่นทรงคุณค่า หรือ MVP ของทัวร์นาเมนต์นี้ โดยที่เธอยังเป็นผู้นำประเภทคะแนนรวม (336) และผลต่างคะแนนรวม/นัดในรอบตัดเชือกด้วยคะแนน 13.75 คะแนน นำหน้า บาลาสซ์ แคตซ์ (11.50) อันดับที่ 2 ที่ตามมามากกว่า 2 แต้มเลยทีเดียว ตามมาด้วยอาปอร์ จอร์จีเดค นักเทคบอลดีกรีแชมป์โลกชายเดี่ยวจากโรมาเนีย (10.57) และราฟาเอลล่า ฟอนเตส ดาวรุ่งสาววัย 21 ปีจากบราซิล (10.25)
นอกจากนี้ สุภาวดี ยังอยู่ในบันทึกอีกหลายสถิติ โดยที่แชมป์โลกหญิงรายนี้ลงเล่นมากที่สุด (14 นัด) เสียแต้มต่อเซ็ตรวมน้อยที่สุด (8.36) และในรอบน็อกเอาต์ (10.25) แต่ว่าสถิติผลต่าง/เซ็ตในช่วงแรก (8.00) ช่วงสอง (7.64) และคะแนนรวม/หมวดหมู่ (168) ประเภทนี้คริสซ์ตินา แอคส์ จากฮังการีทำได้ดีกว่าแชมป์โลกหญิงจากไทย เพียงแต่ว่าภาพรวมด้านสถิติของสุภาวดี ในทุกหมวดหมู่ เธอสามารถก้าวไปติดระดับท็อป 4 ได้ในทุกหมวดหมู่
DafaNews รายงานว่า นอกจากตัวเลขสถิติกันแสนยอดเยี่ยมของสุภาวดี วงศ์คำจันทร์ แแล้วก็ยังมีตัวเลขอื่น ๆ ที่น่าสนใจของนักกีฬาคนอื่นไล่จาก “หยก” จุฑาทิพย์ กันทะธง ที่ก้าวขึ้นมาติดท็อป 5 ในหลายหมวดหมู่ โดยการคิดคะแนนเฉพาะเซตที่ 2 เธอมีอันดับรวมในอันดับ 4 และอันดับ 5 ในรอบน็อกเอาต์ โดยที่เสียแต้มน้อยที่สุดเป็นอันดับ 2 ต่อนัด (11.67) และอยู่อันดับสามของการแข่งขันทั้งหมด โดยแต้มเทียบเท่าแคโรลิน เกรโค และวาเนีย โมราเอส ดา ครูซ ด้วยคะแนนรวมทั้งหมด (288)
“ต้น” พักตร์พงษ์ เดชเจริญ ดีกรีแชมป์โลกประเภทคู่ผสมคนล่าสุด และเหรียญทองแดงประเภทชายคู่ก็ถือว่ามีทัวร์นาเมนท์ที่น่าจดจำ จากการลงเล่นมากที่สุดอันดับ 2 จำนวน 13 นัด ทำคะแนนรวมมาเป็นอันดับ 2
ขณะเดียวกัน ประเภทส่วนต่างของคะแนน ซาบา บานยิค ยังคงยอดเยี่ยม และยังปรากฏตัวในคะแนนรวมที่ทำได้โดยอยู่ในอันดับที่ 5 ด้วยคะแนน 276 คะแนน
นอกจากนี้ สถิติของเซตแรก หรือกลุ่มนักเทคบอลที่เครื่องร้อนเร็วก็น่าสนใจ โดยปรากฏชื่อของซาเนตต์ ยานิคเซ็ค นักเทคบอลสาวจากฮังการีที่โดดเด่นมากในเซตเปิดสนามจากการมีส่วนต่างคะแนนรวม 8.25 แต้ม และ 7.50 แต้มในรอบน็อคเอาต์ ขณะที่เอสเตอร์ วิอานา เมนเดส สาววัย 24 ปีจากราซิลตามมาเป็นอันดับ 2
นั่นเป็นเพราะว่าตัวเลขไม่สามารถโกหกได้ จึงไม่น่าแปลกใจนักที่ 3 ประเทศที่ได้รับรางวัลมากที่สุดอย่างไทย, บราซิล และฮังการี จะก้าวขึ้นมาอยู่ในลำดับต้น ๆ ของสถิติต่าง ๆ
อย่างไรก็ตาม ในหลายสถิติก็มีความน่าสนใจจากผู้เล่นจากชาติอื่น ๆ สอดแทรกเข้ามาสร้างสีสันและเป็นที่ขับตาให้กับวงการเทคบอล ไม่ว่าจะเป็นโจชัว เบลโล และโฮเซ่ ริคาร์โด้ โอเบียโด้ อามอร์เตกี จากโคลอมเบีย, บัปติสเต้ เบอร์น่า จากโปรตุเกส และวิโอริกา โทนู จากมอลโดวา รวมถึงยังมีแคโรลีน เกรโค จากสหรัฐฯ และอาปอร์ จอร์จีเดค จากโรมาเนีย ที่อยู่ในกลุ่มผู้เล่นชั้นนำด้วย นั่นจึงแสดงให้เห็นว่า “เทคบอล” ได้รับการยอมรับและความนิยมในระดับสากลมากขึ้น
แน่นอนว่าการยอมรับจากสากลมากขึ้น ทำให้วงการเทคบอลจำเป็นต้องยกระดับควบคู่เช่นกัน โดยที่ระบบ VAR หรือระบบวิดีโอช่วยตัดสินของสหพันธ์เทคบอลนานาชาติ หรือ FITEQ ที่เปิดตัวขึ้นเมื่อ 18 เดือนที่แล้ว ก็สามารถสร้างมาตรฐานและได้รับการยอมรับจากนักกีฬามากขึ้น ซึ่งเรื่องนี้ นอร์เบิร์ต ออกุสซ์ติน ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายกีฬาได้กล่าวว่า
“การแข่งขันเทคบอลชิงแชมป์โลก 2023 แสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าอย่างมากในด้าน VAR และระบบ Challenge ซึ่งเปิดตัวครั้งแรกในการแข่งขันที่เมืองเนเปิลส์ ประเทศอิตาลี เมื่อปี 2022 ซึ่งเริ่มแรกจะใช้เฉพาะรอบชิงชนะเลิศ แต่ว่าในปีนี้ มีการเติบโตอย่างมากในวงการเทคบอล ทำให้ระบบ VAR ถูกนำมาใช้มากขึ้นเป็น 20 นัดตั้งแต่รอบรองชนะเลิศในทุกประเภทแข่งขัน 5 ประเภท ทำให้เกิดเป็นความท้าทายในหลาย การวางกล้องเพิ่มเติมอย่างมีกลยุทธ์เพื่อปรับปรุงความเร็วในการตัดสินใจของ VAR การเน้นความถูกต้อง แสดงให้เห็นถึงแนวทางการตัดสินใจที่รอบคอบ และเน้นย้ำถึงการอุทิศตนเพื่อความเป็นธรรมและความเป็นเลิศในกีฬาเทคบอล”
สำหรับความท้าทายสำคัญของระบบ VAR นั้น ส่วนใหญ่จะเป็นในแง่การช่วยการตัดสินใจที่ผู้ตัดสินในห้องวิดีโอจะต้องใช้เวลาไม่เกิน 40 วินาทีในการตัดสินใจ ซึ่งช่วยให้ทั้งเกมกีฬาเทคบอลมีความไหลลื่น เกิดความพัฒนา และเพื่อให้ผู้เล่นได้รับผลลัพธ์ที่ถูกต้อง
ทั้งหมดนี้ก็คือตัวเลขเล่าเรื่องจากศึกที่ยิ่งใหญ่ที่สุดส่งท้ายปลายปี 2023 อย่างชิงแชมป์โลก ซึ่งในปีหน้า 2024 ภาพรวมของวงการเทคบอลจะเป็นเช่นใด นักกีฬาไทยจะสามารถคว้ารางวัลได้มากขึ้นหรือไม่ หรือการขยับอันดับคะแนนสะสมโลกจะเป็นอย่างไร อยากให้ทุกคนได้ติดตามกันต่อไป
DafaNews เป็นเว็ปไซต์กีฬาออนไลน์แบบครบวงจรที่คุณสามารถค้นหาข่าวประจำวันของคุณในโลกแห่งกีฬา DafaNews นำเสนอข่าวเด่นข่าวดังทุกวงการกีฬาเพื่อให้คุณได้รับอัพเดตวันต่อวันกับแมตช์, สกอร์, ตารางแข่งขัน และเรื่องราวล่าสุดจากลีกและกิจกรรมที่มีชื่อเสียงที่สุดทั่วโลก
เมื่อช่วงพักเบรกทีมชาติครั้งสุดท้ายของปี 2024 สิ้นสุดลง ฟุตบอลลีกจะกลับมาแข่งขันกันต่อได้อีกครั้ง โดยจะหยุดชะงักไปจนถึงเดือนมีนาคม 2025 โดยจะเริ่มตั้งแต่ช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนไปจนถึงช่วงฤดูหนาวและช่วงเทศกาลปีใหม่ พรีเมียร์ลีกจะกลับมาแข่งขันอีกครั้งในวันเสาร์ โดยเชลซีจะออกไปเยือนเลสเตอร์ ซิตี้ในวันเสาร์ที่จะเริ่มต้นก่อนกำหนด แต่จะมีเกมให้เล่นอีก 6 เกม โดยจะแบ่งเป็น 3… อ่านเพิ่มเติม
บาร์เซโลน่า สโมสรในลาลีกาของสเปน อาจต้องทนกับการขาดหายของ ลามีน ยามาล ปีกชาวสเปน แทนที่จะต้องขาดตัวไปนานถึง 2 สัปดาห์ ตามที่มีการรายงานก่อนหน้านี้ ก่อนช่วงพักเบรกทีมชาติ หลังจากมีรายงานใหม่ระบุว่าแข้งวัย 17 ปีรายนี้ยังไม่ได้ลงสนามในเกมลาลีกานัดสุดท้ายของบาร์เซโลน่า ก่อนช่วงพักเบรกทีมชาติ… อ่านเพิ่มเติม
บาเยิร์น มิวนิค ได้พัฒนาศักยภาพของผู้รักษาประตูในช่วงไม่กี่ฤดูกาลที่ผ่านมา อเล็กซานเดอร์ นูเบล โดดเด่นในช่วงที่ยืมตัวไปอยู่กับโมนาโก โดยเขาคาดว่าจะออกจากมิวนิคในปี 2023 แต่บาเยิร์นตัดสินใจปล่อยยืมตัวเขาไปให้กับเฟาเอฟบี สตุ๊ตการ์ท ตอนนี้ นูเบลทำผลงานได้ดีกับสตุ๊ตการ์ท ซึ่งส่งผลให้เขาเซ็นสัญญาฉบับใหม่กับสโมสรในเดือนเมษายน ก่อนจะกลับมาที่สตุ๊ตการ์ทเพื่อยืมตัวอีกครั้ง ขณะเดียวกัน… อ่านเพิ่มเติม
ตั้งแต่ย้ายจาก โมนาโก มาอยู่กับ สตุ๊ตการ์ต เมื่อตอนยังเด็ก เอ็นโซ มิลล็อตก็เติบโตได้ดีกับทีมบุนเดสลีกา ตั้งแต่ย้ายออกจากสโมสรบ้านเกิดเมื่อปี 2021 เขาได้ลงเล่นให้กับทีมบุนเดสลีกา 86 นัด ยิงได้ 15 ประตู… อ่านเพิ่มเติม
ทอมมี่ ฟิวรี เตรียมกลับมาขึ้นสังเวียนอีกครั้งในเดือนมกราคม 2025 โดยเขาคาดว่าจะเผชิญหน้ากับ ดาร์เรน ทิลล์ อดีตนักสู้ UFC ที่ Co-op Live ในเมืองแมนเชสเตอร์ในวันที่ 18 มกราคม… อ่านเพิ่มเติม
เยอรมัน พลาดโอกาสคว้าชัยชนะในเกมเยือนฮังการีในนัดสุดท้ายของรอบแบ่งกลุ่มเนชั่นส์ลีก หลังจากเสียประตูตีเสมอในนาทีที่ 99 จากจุดโทษของโดมินิก โซบอสไล จูเลียน นาเกลส์มันน์ เปลี่ยนผู้เล่นถึง 9 คนจากเกมที่เยอรมนีเอาชนะบอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา 7-0 ในเกมที่แล้ว โดยเกมนี้ยืนยันว่าไม่มีผลการแข่งขันก่อนเริ่มเกม และพวกเขาก็เล่นได้ไม่ดีในครึ่งแรก… อ่านเพิ่มเติม