มี 9 ประตูเกิดขึ้นที่สนาม เอติฮัต สเตเดี้ยม ในเกมที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เอาชนะ เลสเตอร์ ซิตี้ 6-3 ขณะที่คู่ของ อาร์เซน่อล มีประตูเกิดขึ้น 5 ประตู และ เชลซี เอาชนะ แอสตัน วิลล่า ไป 3-1
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทำได้ดีในครึ่งแรกกับเลสเตอร์ ซิตี้ โดยทำได้ 4 ประตูใน 30 นาทีแรกของเกม และประตูอีก 5 ลูกเกิดขึ้นในช่วงครึ่งหลัง
เควิน เดอ บรอยน์เปิดประตูสู่ประตูเมื่อเขายิงกลับบ้านจากในกรอบเขตโทษในนาทีที่ห้า ก่อนที่ริยาดห์ มาห์เรซจะยิงให้ แมนฯ ซิตี้ นำห่าง 2-0 อีกเก้านาทีต่อมา
อิลคาย กุนโดกัน และราฮีม สเตอร์ลิ่ง ทั้งคู่ทำประตูได้ในนาทีที่ 21 และ 24 ทำให้ แมนฯ ซิตี้ นำ 4-0 ในช่วงพักครึ่ง
อย่างไรก็ตามครึ่งหลัง เลสเตอร์ มาได้สามประตูรวดใน 10 นาที จาก เจมส์ แมดดิสัน, อเดโมล่า ลุ๊คมัน และ เคเลชี่ อิเฮียนาโช่
อย่างไรก็ตาม แมนฯ ซิตี้ มาปิดเกมได้ เมื่อได้อีกสองประตูจาก ลาปอร์ตและสเตอร์ลิงออกในนาทีที่ 69 และ 89
ในขณะเดียวกัน อาร์เซนอลยิงห้าประตูที่แคร์โรว์ โร้ด กับนอริช ซิตี้ และขยับขึ้นเป็นที่สี่ได้อย่างสบายๆ ประตูเริ่มต้นจาก บูคาโย่ ซาก้า ในนาทีที่ห้าของเกมขณะที่ เคียแรน เทียร์นี่ย์ พา อาร์เซน่อล นำ 2-0 ก่อนจบครึ่งแรก
บูคาโย่ ซาก้า ยิงประตูที่สองให้ตัวเองก่อนครบชั่วโมง และอาร์เซน่อล มาได้เพิ่มอีกสองลูกจาก อเล็กซ์ ลากาแซตต์ และเอมิล สมิธ-โรว์ ในช่วงท้ายเกม
ขณะเดียวกัน เวสต์แฮม แพ้ เซาแธมป์ตัน 2-3 นักบุญนำในนาทีที่ 8 ก่อนที่แฮมเมอร์จะตีเสมอและพลิกแซงได้จาก มิเชล อันโตนิโอ
เซาแธมป์ตัน มาได้ประตูนำอีกครั้งจาก เจมส์ วอร์ด พาวส์ ก่อนที่ เวสต์แฮม จะมาตีเสมอจาก เบนราห์มา อย่างไรก็ตาม เซาแธมป์ตัน มาได้ประตูชัยจาก ยาน เบดนาเร็ค พาทีมนักบุญเอาชนะไปได้ 3-2
ขณะที่ สเปอร์ส เอาชนะ คริสตัล พาเลซ ที่เหลือนักเตะ 10 คนไปได้ จากประตูของ แฮร์รี่ เคน, ซอน เฮือง มิน และ ลูคัส มูร่า
จอร์จินโญ่ ยิงจุดโทษ 2 ประตู ขณะที่ โรเมลู ลูกากู ก็เข้าเป้าเช่นกัน ช่วยให้เชลซีเอาชนะแอสตัน วิลล่า 3-1
ขณะที่โปรแกรมคู่อื่นๆ ลิเวอร์พูล จะเจอกับ ลีดส์, วูลฟ์ส จะเจอกับ วัตฟอร์ด และ เบิร์นลี่ย์ จะเจอกับ เอฟเวอร์ตัน ต้องเลื่อนออกไปเนื่องจากการระบาดของ COVID-19