ฝรั่งเศสเริ่มต้นการป้องกันฟุตบอลโลกด้วยชัยชนะเหนือออสเตรเลีย 4-1 ในนัดชิงชนะเลิศเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ขณะที่ โอลิวิเยร์ ชิรูด์ สร้างสถิติ
กองหน้าเอซี มิลานทำสองประตู ขณะที่ อาเดรียน ราบิโอต์ และ คิลิยัน เอ็มบัปเป้ ทำคนละหนึ่งประตู
ฝรั่งเศสประสบปัญหาบาดเจ็บจำนวนมากในการเข้าร่วมทัวร์นาเมนต์เนื่องจากกองกลาง เอ็นโกโล่ ก็องเต้ และ ปอล ปอกบา ที่โดนตัดออกจากทีม
คริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู กองหน้าแอร์เบ ไลป์ซิก และคาริม เบนเซมา ได้รับบาดเจ็บก่อนที่สิงห์บลูส์จะลงเล่นเกมแรก
เมื่อ เบนเซม่า ไม่อยู่ ความรับผิดชอบจึงตกเป็นของกองหน้าเอซี มิลาน และอดีตกองหน้าเชลซีและอาร์เซนอลห่างจากสถิติการทำประตูของ เธียร์รี อองรี ในฝรั่งเศสเพียง 2 ประตู มันเป็นโอกาสในการสร้างประวัติศาสตร์
อย่างไรก็ตาม ด้วยชัยชนะครั้งใหญ่ของซาอุดีอาระเบียในวันนั้น ออสเตรเลียเดินหน้าค้นหาปาฏิหาริย์
เคร็ก กู๊ดวิน ทำประตูให้ ออสเตรเลีย ขึ้นนำในนาทีที่ 9 อย่างไรก็ตามนาทีที่ 27 ฝรั่งเศส มาตามตีเสมอได้จาก อาเดรียน ราบิโอต์ จากการโหม่ง
ชิรูด์ ยิงประตูแรกในอีก 5 นาทีต่อมา ขณะที่คีลิยัน เอ็มบัปเป้นำ 3-1 ในนาทีที่ 66 ก่อนที่ชิรูด์จะทำสถิติเท่ากับเธียร์รี อองรีที่ทำได้ 51 ประตู
ในขณะเดียวกัน โอลิวิเยร์ ชิรูด์ไม่เคยลงเล่นให้ทีมเยาวชนของฝรั่งเศสเลย และไม่ได้ติดทีมชาติชุดใหญ่เป็นครั้งแรกจนกระทั่งอายุ 25 ปี เขาเล่นไปเพียง 40 นาทีในยูโร 2020 แต่ก็สามารถกลับมาได้ โดยระบุว่าเขาจะไม่หยุดอยู่แค่นั้น
“มันเป็นความภาคภูมิใจ ผมไม่ได้ตั้งใจที่จะหยุดอยู่แค่นั้น ผมหวังว่าจะได้แข่งขันต่อไปเพื่อช่วยให้ทีมบรรลุเป้าหมายของเรา เรากำลังแข่งขันกันทีละนัดและต้องการปรับปรุง” ชิรูด์ กล่าวว่า
ฝรั่งเศสจะพบกับเดนมาร์กในวันเสาร์หน้า ก่อนเกมรอบแบ่งกลุ่มนัดสุดท้ายกับตูนิเซีย ทั้งตูนิเซียและเดนมาร์กเสมอกันแบบไร้สกอร์