บาร์เซโลน่า แบกความคาดหวังเอาไว้สูงในรายการ แชมเปี้ยนส์ ลีก ทว่าสถานการณ์ไม่อำนวยเท่าไหร่ เพราะมีการเปลี่ยนตัวผู้จัดการทีมเอา เออร์เนสโต้ บัลเบร์เด้ ออกแล้วเอา กีเก้ เซเตียน ที่มีประสบการคุมทีม ลาส พัลมาส และล่าสุดกับ เรอัล เบติส หวังว่าทีมจะกลับมาเล่นเกมรุกได้สนุกเหมือนสมัยก่อน นั้นเป็นสิ่งที่ ลิโอเนล เมสซี่, เกราร์ด ปีเก้ และนักเตะในทีมต้องการมานานปี
บาร์เซโลน่า ในยุค บัลเบร์เด้ คว้าแชมป์ลีกสองสมัย ทว่าไม่สามารถพาทีมไปได้ไกลเท่าไหร่ใน แชมเปี้ยนส์ ลีก และแม้ว่าจะมีการเปลี่ยนตัวกุนซืออย่าง เซเตียน เข้ามาดูแล แต่หนทางในรายการนี้ก็ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบเสมอไป
ปัจจุบัน บาร์ซ่า รั้งรองจ่าฝูง ลา ลีกา สเปน ตามหลัง เรอัล มาดริด สองคะแนน ทีมยังขาดความแน่นอน และเกมเลกแรกที่บ้าน นาโปลี ก็ไม่ใช่วันของ บาร์เซโลน่า และ ลิโอเนล เมสซี่
ด้าน นาโปลี ปีนี้เป็นปีที่วุ่นวายมากๆ สำหรับพวกเขา อยู่กลางตาราง กัลโช่ เซเรีย อา ฟอร์มเพิ่งจะมาเข้าฝักในช่วงหลัง เก็บชัยได้ 6 จาก 7 เกมหลังสุด แต่เมื่อถึงเวลาแข่งจริง บาร์เซโลน่า ก็ยังดูเป็นเหนืออยู่พอสมควร เป็นฝ่ายเก็บบอลไว้ได้หมด แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้เป็นชิ้นเป็นอัน
นาทีที่ 30 นาโปลี ทำช็อค เมื่อได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จาก ดรีส เมอร์เท่น ครึ่งหลัง บาร์เซโลน่า มาตีเสมอได้ 1-1 จาก อองตวน กรีซมันน์ หลังจาก บาร์เซโลน่า มีโอกาสแซงขึ้นนำหลายครั้ง ทว่าไม่สามารถปิดบัญชีทำให้เสมอกันไป 1-1 ในเลกแรก
เลกสองที่บ้าน บาร์เซโลน่า ทาง นาโปลี ต้องพยายามเปิดเกมรุกให้มากขึ้น เพราะตอนนี้เป็นรองด้วยกฏประตูทีมเยือน ซึ่งนี่อาจจะเข้าทาง บาร์เซโลน่า ที่ได้จังหวะเข้าทำแบบจังๆ ประกอบกับสถิติในการเล่นในบ้าน บาร์ซ่า ทำได้ดีเสมอ ทั้งสองทีมจะเจอกันอีกครั้งในวันที่ 18 มีนาคม ที่ คัมป์ นู