ยูเวนตุส เอาตัวรอดไปอย่างหวุดหวิดหลังไล่ตีเสมอ ดอร์ทมุนด์ 4-4 ในเกมเปิดสนามยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก
เกมสุดระทึกนี้เริ่มต้นด้วยโอกาสทำประตูน้อยมากในครึ่งแรก แต่จบลงแบบไร้สกอร์ ก่อนจะยิงประตูได้มากมายในครึ่งหลัง
“เบียงโคเนรี” ต้องขอบคุณดูซาน วลาโฮวิช ที่ทำแต้มสำคัญนี้แต้มเดียว ทีมเซอร์เบียตีเสมอให้เจ้าบ้าน 2-2 ซึ่งต่อมาเกือบจะแพ้ 4-2 ก่อนที่จะกลับมาช่วยทีมอีกครั้ง
กองหน้าชาวเซอร์เบียที่เกือบย้ายออกจากทีมในช่วงซัมเมอร์นี้ ยิงประตูได้ในช่วงต่อเวลาพิเศษ ก่อนจะจ่ายบอลให้ลอยด์ เคลลี่ ที่รับหน้าที่ควบคุมบอลจนกลายเป็นจุดโทษประตูที่สี่ของดอร์ทมุนด์ กองหลังชาวอังกฤษรายนี้ยิงประตูได้ด้วยการโหม่งสุดสวย ปิดท้ายเกมอันน่าตื่นเต้นที่สนามยูเวนตุส สเตเดียม
นี่คืออีกหนึ่งเรื่องราวของความเข้มแข็งของยูเวนตุสที่ไม่ยอมแพ้ง่ายๆ ด้วยการยิงสองประตูในช่วง 6 นาทีสุดท้าย
ทัพเบียงโคเนรีเข้าสู่เกมด้วยชัยชนะสามนัดจากสามเกมแรกของเซเรียอา รวมถึงชัยชนะอันโกลาหล 4-3 เหนือคู่ปรับอย่างอินเตอร์เมื่อวันเสาร์
เคเฟรน ตูราม เรียกเกรเกอร์ โคเบล ผู้รักษาประตูของดอร์ทมุนด์ให้ลงสนามด้วยการยิงไกลที่เปลี่ยนทาง แต่บอลกลับถูกปัดออกไปอย่างน่าเสียดายที่บอลพุ่งเข้ามุมบน ขณะที่ลอยด์ เคลลี่ โหม่งข้ามคานจากจังหวะลูกตั้งเตะ
ดอร์ทมุนด์ครองบอลได้มากกว่าเจ้าบ้าน แต่ยูเวนตุสสร้างโอกาสได้มากมาย หนึ่งในนั้นคือลูกวอลเลย์ของเคนัน ยิลดิซที่พุ่งเข้าใส่ และโจนาธาน เดวิด ยิงข้ามคานจากขอบกรอบเขตโทษ ขณะที่ลูกครอสของโอเพนดาถูกสกัดที่เสาใกล้
ทีมเยือนได้โอกาสทองครั้งแรกทันทีหลังจากเริ่มเกม พวกเขาเปิดบอลยาวไปโดนแนวรับของยูเวนตุส ทำให้มิเชล ดิ เกรกอริโอ รีบวิ่งออกจากเส้นประตู และพยายามยิงลูกยิงของแม็กซิมิเลียน ไบเออร์ จากมุมแคบจนพุ่งชนเสาประตู
พวกเขาไม่ได้แก้ตัวหลังจากโดนเตือน และคาริม อเดเยมี ก็ลงโทษพวกเขาในจังหวะนั้น
เฟลิกซ์ เอ็นเมชา ฉวยโอกาสจากบอลหลุดกรอบ และอเดเยมี ซัดเต็มข้อเข้ามุมล่างสุดจากขอบกรอบเขตโทษอย่างแรง ทำให้ทีมจากบุนเดสลีกาขึ้นนำ
พวกเขามีโอกาสยิงสองประตูขึ้นนำเกือบวินาทีต่อมา เวสตัน แม็คเคนนี พลาดท่าเสียจังหวะที่บอลทะลุช่องให้เซร์ฮู กีราสซี บีบให้ดิ เกรกอริโอ ต้องรีบวิ่งออกจากเส้นประตูเพื่อเซฟลูกยิงระยะเผาขนอย่างสุดชีวิต
จากนั้นเจ้าบ้านก็กลับมาตีเสมอได้อีกครั้งด้วยลูกยิงสุดสวยด้วยเท้าขวาเสียบมุมบนสุดของเคนัน ยิลดิซ ซึ่งชวนให้นึกถึงลูกยิงของอเลสซานโดร เดล ปิเอโร ฮีโร่ของเขาที่ยิงใส่คู่แข่งทีมเดียวกันในปี 1995
อย่างไรก็ตาม ดอร์ทมุนด์กลับมาขึ้นนำอีกครั้งในอีกไม่ถึง 60 วินาทีต่อมา อเดเยมีกำลังหนุนหลังประตู จ่ายบอลให้เอ็นเมชา ยิงโค้งเข้าประตูจากริมเสาด้วยด้านในของรองเท้าขวา
วลาโฮวิชถูกส่งลงมาจากม้านั่งสำรองและสร้างผลงานได้อย่างน่าประทับใจ เขาวิ่งทะลุบอลให้เคนัน ยิลดิซ ทะลุผ่านโคเบล เข้าประตูไปแบบหนึ่งต่อหนึ่ง และตีเสมอให้ยูเวนตุสอีกครั้ง
ดอร์ทมุนด์กลับมาขึ้นนำอีกครั้งจากลูกยิงสุดสวยของดิ เกรกอริโอ ผู้รักษาประตูปล่อยให้ยาน คูโต้ พุ่งผ่านถุงมือของเขาที่โคนเสาแรก หลังจากที่มาร์เซล ซาบิตเซอร์ แย่งบอลจากตูราม
โคเบลโชว์ฟอร์มสุดสวยอีกครั้งด้วยการผลักลูกยิงสุดสวยของเคนัน ยิลดิซ พุ่งชนเสาประตูจากนอกกรอบเขตโทษ
ดอร์ทมุนด์ได้โอกาสอีกครั้งจากลูกจุดโทษหลังจากโต้กลับ จังหวะโต้กลับ ลูกยิงของกีราสซีหลุดเข้าไปใต้ตัวเคลลี่ ผู้ตัดสินให้จุดโทษเป็นแฮนด์บอล รามี เบนเซบานี ก้าวขึ้นมาโหม่งให้ดิ เกรกอริโอ บอลไปผิดทาง
วลาโฮวิช พุ่งเข้าไปหน้าผู้ประกบก่อนจะยิงเข้าเสาแรกจากลูกเปิดของปิแอร์ คาลูลู จากทางขวา ไล่มาเป็น 1-1
วลาโฮวิช จ่ายบอลจากทางขวาให้ลอยด์ เคลลี่ โหม่งเข้าประตู สร้างความฮือฮาให้กับแฟนบอลเป็น 4-4
หลังจากรอ VAR เช็คจังหวะล้ำหน้าอยู่นาน ตามมาด้วยเสียงเชียร์ดังสนั่นอีกครั้งเมื่อทุกอย่างผ่านพ้นไปแล้ว