เชลซีคว้าตั๋วเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศของยูฟ่า ยูโรปา คอนเฟอเรนซ์ ลีกได้สำเร็จด้วยชัยชนะเหนือทีมจากสวีเดนในเลกสองได้ 1-0 1-0 รวมผลสองนัดคือ 5-1
เดอะบลูส์ เอาชนะทีมจากสตอกโฮล์มด้วยชัยชนะรวม 5-1 และได้เข้าไปเล่นในแมตช์สำคัญที่เมืองวรอตสวัฟเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม
ต้องรอจนถึงนาทีที่ 28 จึงจะมีโอกาสยิงประตูแรกได้สำเร็จ โดยเป็นของเคียร์แนน ดิวสเบอรี่-ฮอลล์ ซึ่งบังคับให้จาค็อบ รินเน่ต้องเซฟลูกยิงอย่างชาญฉลาด
จากนั้น ไทริก จอร์จ ก็บังคับให้ผู้รักษาประตูทีมเยือนต้องเซฟอีกครั้ง แต่ผู้รักษาประตูวัย 19 ปีก็มีบทบาทสำคัญในการพาทีมของเอ็นโซ มาเรสก้าขึ้นนำในนาทีที่ 38
หลังจากพลิกเกมได้อย่างยอดเยี่ยมในแดนกลาง จอร์จส่งดิวส์เบอรี-ฮอลล์ออกไปทางเขา โดยกองกลางรายนี้ส่งบอลไปทางซ้ายก่อนจะยิงบอลออกไปนอกกรอบเขตโทษและเข้าประตู
จอร์จยังคงคุกคามเชลซีต่อไปและน่าจะพาทีมขึ้นนำมากกว่านี้หลังจากพักครึ่ง แต่กลับโหม่งบอลพลาดจากระยะใกล้ แม้ว่าธงล้ำหน้าทางฝั่งไกลจะทำให้เด็กหนุ่มคนนี้ไม่ต้องอายก็ตาม
จากนั้น ดิวส์เบอรี-ฮอลล์ก็ยิงออกไปก่อนที่ฟิลิป ยอร์เกนเซ่นจะถูกบังคับให้ต้องเซฟลูกยิงไกลอันรุนแรงของดาเนียล สเตนส์สัน
แต่เมื่อเสมอกันแล้ว มาเรสก้าก็ตัดสินใจเปลี่ยนตัวหลายคนโดยส่งเจเนซิส อันต์วีและชูไมรา เมิอูก้าลงสนาม ซึ่งทำผลงานได้น่าประทับใจในช่วงที่ลงมาเป็นตัวสำรอง
มาโล กุสโต้เกือบจะปิดท้ายเกมด้วยประตูสุดสวยจากการยิงคนเดียว แต่ลูกยิงด้วยเท้าซ้ายของรินเน่กลับถูกปัดออกไปในนาทีแรกของช่วงทดเวลาบาดเจ็บครึ่งหลัง
ดิวส์เบอรี-ฮอลล์ลงเล่นในพรีเมียร์ลีกได้เพียง 2 นัดในฤดูกาลนี้ และเขาต้องพิสูจน์ตัวเองในลีกระดับคอนเฟอเรนซ์ และกองกลางรายนี้ก็ได้โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมจนเขาหวังว่าจะได้ลงเล่นเป็นตัวจริงในนัดชิงชนะเลิศ
ดิวส์เบอรี-ฮอลล์จบเกมด้วยการสร้างโอกาสได้มากที่สุด (3 ครั้ง) ยิงตรงกรอบ (3 ครั้ง) และจ่ายบอลในพื้นที่สุดท้าย (22) มากที่สุดในทีม ขณะที่รีซ เจมส์ (3 ครั้ง) เลี้ยงบอลสำเร็จมากกว่าอดีตผู้เล่นเลสเตอร์ ซิตี้รายนี้ (2 ครั้ง)
เชลซีจะกลับมาลงเล่นในพรีเมียร์ลีกอีกครั้งในวันเสาร์นี้ โดยพวกเขาจะไปเยือนนิวคาสเซิลเพื่อแย่งชิงพื้นที่ท็อปโฟร์