สิ้นสุดการรอคอยเวลา 30 ปี ของ ลิเวอร์พูล ในการคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ หลังจาก เชลซี เอาชนะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไปได้ 2-1 ที่สแตมฟอร์ดบริดจ์เมื่อคืนวันพฤหัสบดี
ก่อนหน้านี้เด็กๆ ของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ต้องการชัยชนะสองครั้งในการคว้าแชมป์ หลังจากโดนวิกฤติไวรัสโคโรน่าก่อกวน จนล่าสุด ชัยชนะของเชลซีเมื่อคืนวันพฤหัสบดีทำให้การันตีได้ว่า ลิวเอร์พูล จะเป็นแชมป์พรีเมียร์ลีก ต่อจากแชมป์ แชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาลที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม ลิเวอร์พูล จะไม่มีโอกาสฉลองแชมป์ต่อหน้าแฟนๆ ในนัดหน้าที่แอนฟิลด์ จะไม่มีขบวนรถเปิดใด ๆ เนื่องจากการระบาดของไวรัสโคโรนา ตามคำแนะนำของนายกเทศมนตรีของเมืองที่แนะนำให้แฟน ๆ อยู่ที่บ้าน
เชลซี ที่เคยส่ง เลสเตอร์ ซิตี้ เป็นแชมป์ในปี 2016ได่้ประตูนำ แมนฯ ซิตี้ ไปก่อนจาก คริสเตียน พูลิซิช ในครึ่งแรก
ครึ่งหลัง เควิน เดอ บรอยน์ มายิงฟรีคิกตีเสมอให้กับ แมนฯ ซิตี้ ก่อนที่ แฟร์นานดินโญ่ จะทำแฮนด์บอล โดนไล่ออกและ วิลเลี่ยน ยิงจุดโทษให้ เชลซี เป็นฝ่ายเอาชนะไปได้ 2-1
ทำให้โปรแกรมนัดต่อไปที่ ลิเวอร์พูล จะออกไปเยือน แมนฯ ซิตี้ ที่เอติฮัด สเตเดี้ยม จะไม่มีผลต่อการลุ้นแชมป์ เพราะการนำ 23 แต้ม ตอนเหลือโปรแกรมอีก 7 นัด มันขาดลอยไปแล้วในตอนนี้
เจอร์เก้น คล็อปป์ ผู้จัดการทีม ลิเวอร์พูล ได้กล่าวถึงความรู้สึกของเขาในขณะที่ทีมได้แชมป์พรีเมียร์ลีก โดยอธิบายว่ามันเป็นความสำเร็จที่เหลือเชื่อ
คล็อปป์ กล่าวผ่าน สกาย สปอร์ต ว่า “มันไม่น่าเชื่อ ผมเคยวาดฝันเอาไว้ว่าจะคว้าแชมป์กับสโมสรนี้และเราก็ทำได้ นักเตะทุกคนทำได้ มันเป็นเรื่องที่น่ายินดีจริงๆ”