อังกฤษพ่ายแพ้ต่อเซเนกัลแบบเซอร์ไพรส์ 3-1 ในเกมกระชับมิตรที่สนามซิตี้กราวด์ เมืองน็อตติ้งแฮม นับเป็นการปิดฉากโปรแกรมการแข่งขันช่วงซัมเมอร์ที่น่าผิดหวังเพียงปีก่อนการแข่งขันฟุตบอลโลก
แม้จะได้ประตูขึ้นนำตั้งแต่ต้นเกมจากแฮร์รี เคน แต่ทรีไลออนส์ก็รั้งอันดับสองตลอดช่วงส่วนใหญ่ของเกม โดยเซเนกัลตอบโต้ด้วยฟอร์มการเล่นที่เฉียบขาดและแม่นยำ
ประตูของเคนในนาทีที่ 7 ซึ่งเป็นประตูที่ 4 ของเขาจาก 4 เกมภายใต้การคุมทีมของโทมัส ทูเคิล ผู้จัดการทีมคนใหม่ ดูเหมือนจะทำให้ทีมชาติอังกฤษเดินหน้าต่อไปได้อย่างยอดเยี่ยม
อย่างไรก็ตาม เซเนกัลค่อยๆ กลับมาทำประตูตีเสมอได้ก่อนหมดเวลาครึ่งแรก เมื่ออิสไมลา ซาร์ ยิงประตูได้จากการแอสซิสต์อันเฉียบคมของนิโกลัส แจ็คสัน อังกฤษพยายามอย่างหนักเพื่อเรียกโมเมนตัมกลับคืนมาและถูกทำโทษอีกครั้งในครึ่งหลัง
ฮาบิบ ดิยาร์ราทำประตูให้ทีมเยือนขึ้นนำในนาทีที่ 62 ด้วยการจบสกอร์อย่างเฉียบขาดจากการจ่ายบอลของคาลิดู คูลิบาลี ซึ่งใช้ประโยชน์จากแนวรับที่หละหลวมของอังกฤษได้
อังกฤษมีโอกาสตีเสมอในช่วงท้ายเกมจากจู๊ด เบลลิงแฮม ซึ่งทำประตูได้ในนาทีที่ 83 แต่ประตูดังกล่าวถูกปัดออกไปหลังจาก VAR ตรวจสอบและพบว่าเลวี คอลวิลล์ทำแฮนด์บอลระหว่างการเตรียมตัว
ขณะที่อังกฤษพยายามจะตีเสมอในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ การจ่ายฟรีคิกที่ผิดพลาดทำให้เซเนกัลโต้กลับได้
ชีค ซาบาลีปิดท้ายเกมด้วยประตูที่สามในนาทีที่ 93 ส่งผลให้เซเนกัลคว้าชัยชนะประวัติศาสตร์ โดยเซเนกัลกลายเป็นชาติแอฟริกันชาติแรกที่เอาชนะอังกฤษได้ในการแข่งขันชุดใหญ่
เมื่อเสียงนกหวีดหมดเวลาการแข่งขันถูกแฟนๆ ในบ้านโห่ร้อง ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความกังวลที่เพิ่มมากขึ้นเกี่ยวกับฟอร์มการเล่นของทีมภายใต้การคุมทีมของทูเคิล
ลี ดิกสัน อดีตกองหลังทีมชาติอังกฤษวิจารณ์การขาดความเร่งรีบและการตัดสินใจของทีม โดยกล่าวว่าฟอร์มการเล่นเป็นตัวอย่างของปัญหาในช่วงหลังของพวกเขา
ขณะนี้ทีมชาติอังกฤษกำลังเผชิญกับช่วงพักการแข่งขันเกือบสามเดือนก่อนเกมต่อไป ทำให้ทูเคิลต้องเผชิญกับแรงกดดันที่จะต้องแก้ไขฟอร์มการเล่นที่ไม่ลงตัวของทีม
ขณะเดียวกัน เซเนกัลก็สามารถภูมิใจกับชัยชนะที่มั่นใจและสมควรได้รับ ซึ่งจะช่วยยกระดับการเตรียมตัวก่อนการแข่งขันระดับนานาชาติ