เรอัล มาดริด คว้าชัยชนะเหนือบาร์เซโลนาอย่างสุดดราม่า 2-1 ในศึกเอล กลาซิโก้ที่ซานติอาโก เบร์นาเบว ทิ้งห่างจ่าฝูงถึง 5 คะแนน
ประตูจากคีเลียน เอ็มบัปเป้ และจู๊ด เบลลิงแฮม ในครึ่งแรก ช่วยให้ทีมของชาบี อลอนโซ คว้าชัยชนะสำคัญ ขณะที่แฟร์มิน โลเปซ ซัดประตูให้บาร์เซโลนาในเกมที่ดุเดือด เต็มไปด้วยทุกแง่มุม ทั้งประตู ความตึงเครียด และความขัดแย้ง
บรรยากาศในเบร์นาเบวเต็มไปด้วยความตื่นเต้นตั้งแต่เสียงนกหวีดแรก มาดริดขึ้นนำก่อนในนาทีที่ 22 เมื่อเบลลิงแฮมจ่ายบอลทะลุช่องอย่างชาญฉลาดให้เอ็มบัปเป้ ยิงเข้าไปอย่างสวยงาม ส่งผลให้เจ้าบ้านขึ้นนำก่อน
บาร์เซโลนาตอบโต้ด้วยความมุ่งมั่น และความกดดันของพวกเขาก็สัมฤทธิ์ผลเมื่อมาร์คัส แรชฟอร์ด จ่ายบอลให้โลเปซ ยิงตีเสมออย่างเฉียบขาดในนาทีที่ 38 อย่างไรก็ตาม ก่อนหมดครึ่งแรกเพียงเสี้ยววินาที มาดริดได้เปรียบอีกครั้งเมื่อเอแดร์ มิลิเตา โหม่งบอลให้เบลลิงแฮมยิงประตู ส่งผลให้แฟนบอลเจ้าบ้านดีใจกันยกใหญ่
ครึ่งหลังเป็นไปอย่างสูสี ทั้งสองทีมสร้างโอกาสได้แต่พลาดประตู บาร์เซโลนาพยายามอย่างหนักเพื่อตีเสมอ โดยลามีน ยามาล และจูลส์ คูนเด ต่างพลาดโอกาสในช่วงท้ายเกม
ขณะเดียวกัน เรอัล มาดริด ดูเหมือนจะอันตรายจากการโต้กลับ โดยเอ็มบัปเป้เกือบจะยิงประตูที่สามได้สำเร็จ แต่ยิงออกไปอย่างเฉียดฉิว วินัยทางยุทธวิธีของอลอนโซทำให้ทีมของเขาเล่นได้อย่างเหนียวแน่น ขณะที่มาดริดพยายามรักษาความได้เปรียบที่ริบหรี่ของพวกเขาไว้
เมื่อเวลาใกล้หมดลง ความโกรธก็ปะทุขึ้น ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ เปดรีได้รับใบเหลืองใบที่สองจากการเข้าสกัดออเรเลียง ชูอาเมนีอย่างไม่ระมัดระวัง ทำให้บาร์เซโลนาเหลือผู้เล่นสิบคน
การถูกไล่ออกครั้งนี้ก่อให้เกิดการเผชิญหน้าอย่างดุเดือดที่ข้างสนาม โดยเจ้าหน้าที่ควบคุมเกมต้องแยกผู้เล่นและทีมงานออกจากกัน ขณะที่อารมณ์เดือดพล่าน อันดรี ลูนิน ของมาดริดก็โดนใบเหลืองเช่นกัน ท่ามกลางความโกลาหล ขณะที่ความตึงเครียดพุ่งถึงขีดสุดในช่วงท้ายเกม
หลังจากสิ้นเสียงนกหวีดหมดเวลา นักเตะมาดริดต่างเฉลิมฉลองที่กลางสนาม ขณะที่อลอนโซคว้าชัยชนะในศึกเอล กลาซิโก ครั้งแรกในฐานะผู้จัดการทีมเรอัล