เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ผู้จัดการทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ปกป้องผลงานในฤดูกาล 2024–25 ของทีมที่ไม่น่าประทับใจ โดยยกชัยชนะในคอมมูนิตี้ ชิลด์เป็นความสำเร็จที่โดดเด่น แม้ว่าสโมสรจะต้องเผชิญกับฤดูกาลที่ไม่มีถ้วยรางวัลเป็นครั้งแรกในรอบ 8 ปีก็ตาม
โค้ชชาวกาตาลันเน้นย้ำว่าในบรรดาทีมจากอังกฤษที่มีแนวโน้มจะผ่านเข้าไปเล่นแชมเปี้ยนส์ลีกฤดูกาลหน้า มีเพียงซิตี้ ลิเวอร์พูล และนิวคาสเซิลเท่านั้นที่คว้าแชมป์ในฤดูกาลนี้
แชมป์รายการเดียวของซิตี้กลับมาอีกครั้งในเดือนสิงหาคม เมื่อพวกเขาเอาชนะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดด้วยการดวลจุดโทษและคว้าแชมป์คอมมูนิตี้ ชิลด์ได้ นับตั้งแต่นั้นมา แชมป์พรีเมียร์ลีกคนปัจจุบันต้องตกรอบก่อนกำหนดทั้งในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีกและเอฟเอ คัพ ขณะเดียวกันก็ต้องเสียแชมป์ลีกให้กับลิเวอร์พูล ซึ่งได้รับการยืนยันให้เป็นแชมป์แล้ว
การพ่ายแพ้ในรอบชิงชนะเลิศเอฟเอ คัพ เมื่อวันเสาร์ต่อคริสตัล พาเลซ ที่สนามเวมบลีย์ ถือเป็นความพ่ายแพ้อีกครั้งในฤดูกาลที่น่าผิดหวังตามมาตรฐานอันสูงส่งของซิตี้ อย่างไรก็ตาม กวาร์ดิโอลายังคงยืนกราน โดยชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของการผ่านเข้าไปเล่นแชมเปี้ยนส์ลีก และยืนกรานว่าฤดูกาลนี้ยังมีคุณค่าอยู่ หากสามารถบรรลุเป้าหมายนั้นได้
“ยกเว้นนิวคาสเซิล ซึ่งคว้าแชมป์คาราบาวคัพ ลิเวอร์พูล และเราเองด้วยคอมมูนิตี้ ชิลด์ ไม่มีทีมไหนได้แชมป์เลย” กวาร์ดิโอลากล่าว “สโมสรอย่างเชลซี ยูไนเต็ด และท็อตแนม อาจยังคงคว้าแชมป์ในยุโรปได้ แต่การผ่านเข้าไปเล่นแชมเปี้ยนส์ลีกยังคงเป็นเป้าหมายสำคัญในตอนนี้”
ปัจจุบันแมนฯ ซิตี้รั้งอันดับที่ 6 ในตารางพรีเมียร์ลีก แต่ยังคงลุ้นจบใน 4 อันดับแรก โดยมีเกมในมือน้อยกว่า 1 นัด
พวกเขาต้องการอีกเพียง 4 แต้มจาก 2 นัดที่เหลือเพื่อการันตีตำแหน่งแชมเปี้ยนส์ลีกในฤดูกาลหน้า โดยนัดต่อไปของพวกเขาคือพบกับบอร์นมัธในวันอังคาร ตามด้วยเกมรอบสุดท้ายของฤดูกาลในวันอาทิตย์
การแข่งขันเพื่อผ่านเข้าไปเล่นแชมเปี้ยนส์ลีกเข้มข้นขึ้น โดยมีนิวคาสเซิลที่อยู่อันดับ 3 และน็อตติงแฮม ฟอเรสต์ที่อยู่อันดับ 7 ห่างกันเพียงแต้มเดียว กวาร์ดิโอล่าเน้นย้ำถึงความสำคัญของการมีสมาธิในการแข่งขันที่เหลือ โดยระบุว่าแมนฯ ซิตี้ “เล่นในนัดชิงชนะเลิศได้ดีมาก” และตอนนี้ต้องแน่ใจว่าพวกเขาจบฤดูกาลด้วยอันดับท็อปไฟว์เพื่อกอบกู้ฤดูกาลนี้เอาไว้ได้