จู๊ด เบลลิงแฮม โชว์ฟอร์มได้โดดเด่นอีกครั้งในขณะที่เรอัล มาดริดมาจากด้านหลังเพื่อคว้าชัยชนะ 3-2 ที่นาโปลี ในเกมยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกรอบแบ่งกลุ่มครั้งที่สอง ทีมลอส บลังโกสพยายามดิ้นรนเพื่อคว้าชัยชนะ 1-0 ในเกมแรกในบ้านต่อยูเนียน เบอร์ลินที่ซานติอาโก้ เบร์นาบิว โดยได้รับความอนุเคราะห์จากประตูชัยจากเบลลิงแฮม
ในวันอังคาร เขาจะมีบทบาทสำคัญต่อไปในขณะที่เขาทำแอสซิสต์ให้เรอัล มาดริดเป็นลูกแรกและทำประตูลูกที่สอง ซึ่งช่วยให้มาดริดยังคงออกสตาร์ตชัยชนะต่อไปในรอบแบ่งกลุ่ม เรอัล มาดริดออกสตาร์ทด้วยเท้าหลังในเนเปิลส์หลังจากเสียลูกโหม่งในครึ่งแรกขณะที่ลีโอ ออสติการ์ดให้เจ้าบ้านขึ้นนำในนาทีที่ 19
มันเป็นประตูที่สองติดต่อกันของกองหลังชาวนอร์เวย์วัย 23 ปีในเกมที่สองติดต่อกันหลังจากประตูของเขาในชัยชนะ 4-0 ของนาโปลีเหนือเลชเช่ในเซเรียอาเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
ในที่สุดวินิซิอุส จูเนียร์ก็ดึงผู้มาเยือนตีเสมอได้ในนาทีที่ 29 ก่อนที่เบลลิงแฮมจะวิ่งหนีกองหลังนาโปลีหลายคนก่อนจะยิงเท้าขวากลับบ้าน ส่งผลให้เรอัล มาดริด 7 นาทีถัดมา
แชมป์จากอิตาลีบุกตามหลัง แต่ใช้เวลาไม่นานในครึ่งหลังก่อนที่พวกเขาจะเสมอกัน ขณะที่ พิเอเตอร์ ซีลินสกี้ ดึงระดับเกมอีกครั้งจากจุดโทษเก้านาทีหลังพักครึ่ง
ในที่สุดเรอัล มาดริดก็ต้องหัวเราะเป็นครั้งสุดท้ายด้วยลูกยิงอันทรงพลังของเฟเดริโก้ บัลเบร์เด้ จากระยะไกล ซึ่งเอาชนะอเล็กซ์ เมเร็ต ผู้รักษาประตูของนาโปลีโดยเหลือเวลาลงเล่นอีก 12 นาที เรอัล มาดริดคว้าชัยชนะในรอบแบ่งกลุ่มยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกรอบแบ่งกลุ่มเป็นครั้งที่สองในฤดูกาลนี้ ขณะที่นาโปลีแพ้หลังจากออกสตาร์ตชนะบราก้า
ในขณะเดียวกัน ฝั่งโปรตุเกสบุกไปเยือนยูเนียน เบอร์ลินเพื่อคว้าชัยชนะแบบตามหลัง 3-2 เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา และขยับขึ้นมาอยู่อันดับสามในกลุ่ม C โดยมีแต้มเท่ากับนาโปลี โปรแกรมแชมเปี้ยนส์ลีกครั้งต่อไปของเรอัล มาดริดจะพบกับเอสซี บราก้า สโมสรจากโปรตุเกสในวันที่ 24 ตุลาคม แต่ก่อนหน้านั้นยังมีโปรแกรมลาลีกาอีก 2 นัดอีกครั้ง โอซาซูนา และเซบีย่า ก่อนและหลังเบรกทีมชาติ ตามลำดับ