นิคลาส ฟูลครูก ทำประตูชัยในครึ่งแรกได้อย่างยอดเยี่ยม ช่วยให้โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ขึ้นนำในเลกที่สองของรอบรองชนะเลิศแชมเปี้ยนส์ลีก
สโมสรบุนเดสลีกาเอาชนะปารีส แซงต์-แชร์กแมง 1-0 ในเกมเลกแรกที่สนามซิกนัล อิดูน่า พาร์คเมื่อคืนวันพุธ ประตูเดียวจากทีมชาติเยอรมัน ในนาทีที่ 36 ทำให้ดอร์ทมุนด์ขึ้นนำและกลายเป็นผู้ชนะในที่สุด
เปแอสเช ล้มเหลวในการกลับมามีชีวิตอีกครั้งในครึ่งแรกที่ย่ำแย่ เนื่องจากพวกเขาพลาดโอกาสหลายครั้งที่จะตีเสมอในครึ่งหลัง
คีลิยัน เอ็มบัปเป้ ผู้ทำสองประตูกับบาร์เซโลนาในรอบก่อนรองชนะเลิศ ได้โอกาสปั่นโค้งแต่ไปโดนเสา ก่อนที่ อาชราฟ ฮาคิมี่ จะยิงแต่ก็ไม่เป็นประตู
ฟูลครูกมีโอกาสขึ้นนำเป็นสองเท่าของดอร์ทมุนด์ แต่ล้มเหลวในการทำประตูหลังจากทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมทางปีกขวาจากจาดอน ซานโช่ ปีกแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดที่ยืมตัวมา มีเพียงกองหน้ารายนี้ที่ยิงข้ามคานจากระยะ 5 หลาเท่านั้น
เกมนี้ต้องให้เครดิตกับ ดอร์ทมุนด์ ที่แก้เพรสซิ่งของ เปแอสเช ได้ในหลายๆ จังหวะ
อย่างน้อยพวกเขาก็ได้รับชัยชนะในการพบกันแชมเปียนส์ลีกครั้งที่สามของฤดูกาล ดอร์ทมุนด์ทำให้แขกรับเชิญดีขึ้นด้วยการเล่นที่ตรงไปตรงมา ความดุดัน และความดื้อรั้น
แม้จะครองครึ่งแรกได้มาก แต่เปแอสเชก็ล้มเหลวในการยิงเข้ากรอบ ขณะที่ ดอร์ทมุนด์ ก็ตั้งรับได้ดี
มาร์เซล ซาบิตเซอร์ เสียโอกาสขึ้นนำเช่นกัน แต่กองหน้าชาวสวิสในช่วงครึ่งแรกไม่สามารถเอาชนะ จิอันลุยจิ ดอนนารุมม่า ด้วยการวอลเลย์ระยะใกล้ได้
หลังจากที่หลุยส์ เอ็นริเก้รวมตัวในช่วงพักครึ่ง จังหวะสำคัญนัดแรกของเอ็มบัปเป้เกิดขึ้นในนาทีที่ 51 กัปตันทีมฝรั่งเศสชนเสาด้วยเครื่องหมายการค้าตัดเข้าจากซ้าย
ครู่ต่อมา ถึงคราวของฮาคิมิ อดีตแบ็กขวาดอร์ทมุนด์ เพื่อช่วยเปแอสเช คืนความเท่าเทียม แต่ความพยายามของเขา เช่นเดียวกับเอ็มบัปเป้ กลับติดอยู่ด้านในของเสาฝั่งตรงข้ามและวิ่งไปที่ปลอดภัย
อุสมาน เดมเบเล่ อดีตนักเตะดอร์ทมุนด์อีกคน เสียโอกาสอันรุ่งโรจน์เมื่อเขายิงข้ามคานไปในช่วง 10 นาทีที่เหลือ
คาดว่าสกอร์จะเป็นอุปสรรคเล็กๆ น้อยๆ สำหรับสโมสรปารีส โดยปล่อยให้การเสมอกันครั้งนี้มีความสมดุลอย่างดีสำหรับเลกที่สองที่ปาร์ก เดส์ แพร็งซ์ ในวันอังคาร