นอริช ซิตี้ ต้อนรับการมาเยือนของ วูลฟ์แฮมป์ตัน โดยเจ้าถิ่นกำลังดิ้นรนหนีการตกชั้นอย่างหนัก แม้ว่าจะเก็บแต้มบิ๊กพ้อยท์จาก เอฟเวอร์ตัน, เลสเตอร์ ซิตี้ และ อาร์เซน่อล มาได้ แต่เกมนี้ก็มาพลาดง่ายๆ เหมือนเดิม ด้วยการแพ้ วูลฟ์แฮมป์ตัน 1-2 ส่งผลให้ตอนนี้พวกเขาไม่ชนะใครมา 5 เกมติดเข้าไปแล้ว ส่วน วูลฟ์แฮมป์ตัน หากไม่นับเกมที่แพ้ สเปอร์ส พวกเขาไม่แพ้ใครมา 9 เกมติด
เริ่มเกม นอริช ซิตี้ ได้ประตูขึ้นนำตั้งแต่ไก่โห่จาก ท็อดด์ คานท์เวลล์ ในนาทีที่ 17 ต่อจากนั้นเกมเป็นของ นอริช ที่บุกกดดัน วูลฟ์แฮมป์ตัน ได้อย่างต่อเนื่อง ติมู พุคกี้ และ อเล็กซ์ เต็ดตี้ มีโอกาสบวกประตูเพิ่มให้กับเจ้าถิ่น ทว่าโดน รุย ปาทริซิโอ ผู้รักษาประตู วูลฟ์แฮมป์ตัน เซฟเอาไว้ได้หมด
ครึ่งหลัง วูลฟ์แฮมป์ตัน แก้เกมมาดี และมาได้ประตูตีเสมอจาก โรแม็ง เซสส์ ในนาทีที่ 60 และยังไม่เบาเครื่อง มาได้ประตูพลิกแซงจาก ราอูล ฆิเมเนซ กองหน้าตัวเก่งของทีมมายิงประตูที่ 16 ของตัวเองในฤดูกาลนี้ ในนาทีที่ 81 จากการผ่านบอลของ แมตต์ โดเฮอร์ตี้ และ ราอูล ฆิเมเนซ ก็ปิดบัญชีไปได้อย่างสวยงาม จบเกม วูลฟ์แฮมป์ตัน เอาชนะไปได้ 2-1
ปัจจุบัน นอริช ซิตี้ ปัจจุบันรั้งอันดับ 19 มีแต้มห่างจากพื้นที่ปลอดภัย 6 คะแนน ตอนนี้ ดาเนี่ยล ฟาร์เก้ กุนซือใหญ่ของทีมต้องพยายามทำอะไรสักอย่าง และน่าจะต้องเริ่มทันทีในเกมต่อไปที่จะเจอกับ แอสตัน วิลล่า ในช่วง บ๊อกซ์ซิ่ง เดรย์ ถือเป็นเกมที่สำคัญสุดๆ หาก นอริช ซิตี้ ไม่อยากตกชั้นก็จำเป็นที่ต้องเก็บสามแต้มในแมตช์ดังกล่าวให้ได้ และไปเล่นเกมสุดท้ายของปี 2019 กับ สเปอร์ส ในบ้านตัวเอง ในวันที่ 29 ธันวาคม และกลับมาว่ากันใหม่ในปีหน้าที่จะเจอกับ คริสตัล พาเลซ ในวันที่ 2 มกราคม