โมฮา เหม็ดซาลาห์ พาลิเวอร์พูลทุบวูล์ฟส์ 4-0 เพื่อเลื่อนระดับทำแต้มทาบท็อตแนมจ่าฝูงพรีเมียร์ลีก

แข้งชาวอียิปต์ใช้ประโยชน์จากข้อผิดพลาดจาก คอเนอร์ โคอาดี อดีตกองหลังหงส์แดงเพื่อขโมยพาลูกกลับเข้าบ้านและยิงประตูในนาทีที่ 24

จากนั้นกัปตันทีมหมาป่าก็จมอยู่ในช่วงเวลาแห่งการโต้เถียงในตอนท้ายของครึ่งแรก ผู้ตัดสิน เคร็ก พาวสัน ตัดสินชี้เป็นจุดโทษหลังจากที่ ซาดีโย มาเน ถูกตัดสินว่ายกเท้าสูงใส่ และ โคอาดี พยายามเคลียร์

แต่เมื่อเปิด VAR เช็คแล้วเห็นว่า มาเน ชักเท้าหลบก่อนปะทะกับ โคอาดี ทำให้ผู้ตัดสินไม่ให้จุดโทษในจังหวะดังกล่าว

ทีมเหย้าต้อนรับแฟนบอล 2,000 คนลงสนามเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนมีนาคมซึ่งหมายความว่าพวกเขาสามารถเชียร์หงส์แดงได้ในที่สุดหลังจากพลาดโอกาสที่จะได้เห็นพวกเขาคว้าแชมป์ลีกครั้งแรกในรอบ 30 ปี มันเป็นโอกาสที่สนุกสนานสำหรับ Kopites เนื่องนักเตะของ เจอร์เกน คล็อปป์ ได้ประตูเพิ่มจาก จินี ไวจ์นัลดุม, โจเอล มาติปและ เนลสัน เซเมโด ในครึ่งหลัง

ผลการแข่งขันจะเห็นว่าลิเวอร์พูลกลับขึ้นมาเป็นอันดับสองตามหลังสเปอร์สด้วยผลต่างประตู หมาป่า อยู่ที่อันดับ 10

ลิเวอร์พูลติดอันดับกลุ่ม D ในแชมเปี้ยนส์ลีกแล้วซึ่งหมายความว่า คล็อปป์ สามารถให้ดาวเตะของเขาได้พักผ่อนสำหรับการเดินทางไปยัง FC Midtjylland ในวันพุธก่อนการแข่งขันพรีเมียร์ลีกในวันอาทิตย์ที่ฟูแล่ม วูล์ฟส์ เปิดบ้านต้อนรับ แอสตันวิลลา ในวันเสาร์

ประเด็นที่น่าสนใจ

ลิเวอร์พูลดูจะอยู่ในเกณฑ์ดีมาก มันพิสูจน์แล้วว่าเป็นงานในคืนที่ยอดเยี่ยมสำหรับลิเวอร์พูล แม้แต่ VAR ก็ให้การตัดสินที่เข้าข้าง โคอาดี ดูเหมือนจะล้มเหลวที่ไม่โดน ผู้ตัดสินเองก็ได้ข้อสรุปที่ถูกต้อง สถานการณ์ประเภทนี้เป็นสาเหตุที่ทำให้มีการนำ VAR เข้ามาและเป็นเรื่องดีที่เห็นว่าสถานการณ์ดังกล่าวเป็นเรื่องที่ดีสำหรับการเปลี่ยนแปลง

มันไม่ใช่เรื่องบังเอิญที่การกลับมาของแฟนๆ ได้เห็นการโจมตีที่โด่งดังของลิเวอร์พูลอีกครั้ง พวกเขาแข็งแกร่งเกินไปสำหรับ วูล์ฟส์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในครึ่งหลัง เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ และ นาบี้ คีตา กลับมาจากอาการบาดเจ็บในฐานะตัวสำรองและ ควีวีน เคลเลเฮอร์ ทำประตูพรีเมียร์ลีกด้วยคลีนชีต หลายสิ่งหลายอย่างนั้นขึ้นอยู่กับ ฟาบินโญ่ และ มาติป ซึ่งได้จัดตั้งพันธมิตรแนวรับที่ดี ไม่ต้องสงสัยเลยว่าพวกเขาจะได้รับการอนุมัติจาก เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค ที่เฝ้าดูและยิ้มอยู่บนอัฒจันทร์

ตอนนี้ชาวเมอร์ซีย์ไซเดอร์สามารถพักนักเตะของพวกเขาในกลางสัปดาห์ด้วยแชมเปี้ยนส์ลีก 16 แต้มสุดท้ายในกระเป๋าและมองไปยังเป้าหมายข้างหน้าเพื่อการแข่งขันที่ฟูแล่ม หงส์แดงดูเหมือนจะอยู่ในสภาพที่ดีแม้จะมีปัญหาอาการบาดเจ็บและเป็นลางดีสำหรับการปะทะในบ้านกับท็อตแนมในวันที่ 16 ธันวาคม

สุดยอดนักเตะ

โมฮาเหม็ด ซาลาห์ (ลิเวอร์พูล) ที่ดูมีชีวิตชีวา กองหน้าลงโทษข้อผิดพลาดของ โคอาดี ด้วยความเร็วที่เพิ่มขึ้นและการจบสกอร์ที่เฉียบคม The Reds ’No.11 ได้เริ่มต้นอย่างแข็งแกร่งสำหรับแคมเปญใหม่และดูเหมือนว่าจะพร้อมอย่างมั่นคงในการล่ารองเท้าทองคำพรีเมียร์ลีกอีกครั้ง

ช่วงเวลาสำคัญ

นาทีที่ 24 เจ้าบ้านได้ประตูขึ้นหมาป่าไป 1-0 จากการทำประตูของ ซาลาห์ ตะครุบข้อผิดพลาดจาก โคอาดี และยิงกดด้วยซ้าย

นาทีที่ 45 ดราม่าลงโทษหมาป่า! ผู้ตัดสินให้ให้จุดโทษแก่ผู้มาเยือนหลังจากที่ มาเน ดูเหมือนจะเตะโดน โคอาดี มีการเช็ค VAR พาวสัน ตรวจสอบกับจอภาพด้านสนาม การรีเพลย์แสดงการสัมผัสกันน้อยมากและการตัดสินใจอย่างเป็นทางการโดยไม่ให้จุดโทษในจังหวะดังกล่าว

นาทีที่ 58 โอกาสของหมาป่า! โคอาดี เกือบจะทำประตูได้การจ่ายบอลที่ยอดเยี่ยมจากทางขวา มีเพียงการป้องกันที่ยอดเยี่ยมจาก ฟาบินโญ่ เท่านั้นที่ขโมยมันออกจากเท้าของเขา

นาทีที่ 59 ลิเวอร์พูลได้ประตูที่ 2 การโต้กลับของฝั่งเจ้าบ้านด้วยความเร็วและ ไวจ์นัลดุม ได้บอลหลุดมาจี้หากรอบเขตโทษก่อนปั่นด้วยขวาเขาไปตุงตาข่าย

นาทีที่ 67 หงษ์แดงได้ประตูที่ 3 มาติป ลอยมาโขกบอลเข้าไป จากจังหวะ ซาลาห์ ส่งบอลมาให้ที่หน้าประตู และโหม่งเข้าไปไมพลาด

นาทีที่ 78 เจ้าบ้านได้ประตูที่ 4 อเล็กซานเดอร์ – อาร์โนลด์ ตัวสำรองกลับมาปาดเข้ากลางให้ มาเน ยิงบอลโดนไม่เต็มไปแฉลบ เซเมโด้ เข้าประตู ลิเวอร์พูลนำ 4-0

สถิติที่สำคัญ

ตอนนี้ ซาลา ห์ยิงได้ 52 ประตูในพรีเมียร์ลีกที่แอนฟิลด์ – มีเพียง ลิโอเนล เมสซี่ เท่านั้นที่คัมป์นู (63) และ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ที่อัลลิอันซ์อารีน่า (59) มีมากกว่าในสถานที่เดียวในห้าลีกใหญ่ของยุโรปนับตั้งแต่เขาเข้าร่วมหงส์แดงในปี 2017

ลิเวอร์พูลชนะ 31 เกมจาก 32 เกมเหย้า (D1) ล่าสุดทำประตูได้ 93 ประตูขณะที่เสียไปเพียง 25 ประตูในครั้งนี้

นับตั้งแต่นัดแรกของลิเวอร์พูลหลังจากอาการบาดเจ็บของ เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค กับ เอฟเวอร์ตัน (อาแจ็กซ์ในเดือนตุลาคม) หงส์แดงเสียประตูไปเพียงหกประตูจาก 11 เกมในทุกรายการแข่งขันโดยเก็บคลีนชีตได้ 6 นัด

คืนนี้เป็นครั้งที่ 17 ที่ โม ซาลาห์ ทำประตูและช่วยประตูในเกมพรีเมียร์ลีกนัดเดียวกับลิเวอร์พูล ตั้งแต่ปี 2017-18 มากกว่าผู้เล่นคนอื่นๆ ถึง 5 เท่า (ซอน เฮือง มิน 12)

ห้าจากหกประตูของ โจเอล มาติป ทำให้ลิเวอร์พูลในทุกรายการแข่งขันโดยห้าประตูมาจากสถานการณ์เตะมุม (ฟรีคิกหนึ่งครั้ง)

88.5% – จาก 26 ประตูในพรีเมียร์ลีกของ จอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม 23 ประตูในบ้าน (88.5%) ซึ่งเป็นอัตราส่วนสูงสุดที่ทำได้ในบ้านเกิดของผู้เล่นทุกคนที่ทำประตูได้มากกว่า 20 ประตูในประวัติศาสตร์การแข่งขัน

dafabet เปิดเดิมพันกีฬา เทนนิส ฟุตบอล บาสเก็ตบอล มวย อีสปอร์ต ทัวร์นาเมนต์ทั่วโลก เล่นพนันได้ทุกแมตช์ สดและล่วงหน้า ค่าน้ำดี dafabet การันตีเงินชนะ เช็คผลบอลสด ดูถ่ายทอดสด ได้ทุกลีกทั่วโลก