ลิโอเนล เมสซี กัปตันทีมชาติอาร์เจนติน่า โชว์ฟอร์มได้อย่างน่าประทับใจในขณะที่พาทีมชาติคว้าแชมป์ ไฟนั่ลลิสซิม่า เมื่อวันพุธที่อาร์เจนตินาเอาชนะอิตาลีด้วยชัยชนะ 3-0 ที่เวมบลีย์
ไฟนั่ลลิสซิม่า เป็นการแข่งขันที่ผู้ชนะของ โคปา อเมริกา และผู้ชนะการแข่งขันชิงแชมป์ยุโรปจะเผชิญหน้ากัน เป็นครั้งแรกในรอบกว่า 20 ปีที่เกมนัดชิงชนะเลิศจะเล่นกับแชมป์ยูโร 2020 อิตาลี เผชิญหน้ากับผู้ชนะโคปาอเมริกาอาร์เจนตินาที่สนามกีฬาเวมบลีย์
สำหรับอาร์เจนติน่า เกมดังกล่าวเป็นหนึ่งในเกมที่ปรับแต่งก่อนฟุตบอลโลกในเดือนพฤศจิกายน 2022 ที่กาตาร์ ในขณะที่เป็นการอำลาตำนานชาวอิตาลีในจอร์เจีย คิเอลลินี ซึ่งกำลังเล่นเกมสุดท้ายของเขาที่สถานที่เดียวกันกับอิตาลี ชนะยูโร 2020 เมื่อปีที่แล้ว
เนื่องจากอิตาลีไม่ผ่านเข้ารอบสำหรับฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์ จึงเป็นอีกโอกาสหนึ่งสำหรับพวกเขาที่จะคว้าถ้วยรางวัลเพื่อเป็นการปลอบใจ
อย่างไรก็ตาม พวกเขาเป็นทีมที่ดีที่สุดอันดับสองตลอด 90 นาที เนื่องจากอาร์เจนตินาครองตั้งแต่ต้นจนจบ นำโดยลิโอเนล เมสซี กองหน้า PSG
อาร์เจนตินามีปัญหาในการป้องกันของอิตาลี แต่ถูกปฏิเสธหลายครั้งโดย จิอันลุยจิ ดอนนารุมม่า จนกระทั่งอาร์เจนตินาได้ประตูนำจากกจังหวะที่ ลิโอเนล เมสซี่ เลี้ยงผ่านกองหลังชาวอิตาลีและเปิดให้ เลาตาโร่ มาร์ติเนซ ยิงเข้าไปง่ายๆ
ในช่วงต้นครึ่งหลัง ผู้ชนะโคปา อเมริกาได้ขึ้นนำเป็นสองเท่าเมื่อ อังเกล ดิ มาเรีย ถูกปล่อยตัวต่อตัวกับดอนนารุมมา ก่อนที่ผู้เล่นที่ออกจากเปแอสเชเมื่อสิ้นสุดฤดูกาล 2021/2022
ชิพบอลเหนือเพื่อนร่วมทีมเก่าของเขา เพื่อให้ อาร์เจนติน่า นำ 2-0 ท้ายเกม เปาโล ดีบาล่า ยิงให้ อาร์เจนติน่า นำห่าง 3-0 และเอาชนะไปได้ด้วยสกอร์นี้
เป็นถ้วยรางวัลระดับนานาชาติครั้งที่ 2 ของลิโอเนล เมสซี ต่อจากโคปา อเมริกาเมื่อปีที่แล้ว ขณะที่อาร์เจนตินายังคงไม่แพ้ใคร ซึ่งตอนนี้มีถึง 32 แมตช์