ปารีส แซงต์ แชร์กแมง สานต่อฟอร์มอันน่าประทับใจในศึกแชมเปี้ยนส์ลีก ด้วยการเอาชนะท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ 5-3 ที่สนามปาร์ก เดส์ แพร็งซ์ เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ด้วยแฮตทริกแรกในอาชีพอันน่าตื่นเต้นของวิตินญ่า
เกมเริ่มต้นขึ้นอย่างรวดเร็ว เมื่อควิช่า ควารัตสเคเลีย เกือบทำประตูได้สองครั้งให้กับเปแอสเช ก่อนที่ท็อตแนมจะยิงประตูแรกในนาทีที่ 35 ริชาร์ลิซอน ซัดประตูจากระยะเผาขนหลังจากแรนดัล โคโล มูอานี จ่ายบอลให้คู่แข่ง
เปแอสเช ตอบโต้ได้อย่างยอดเยี่ยมในช่วงครึ่งแรก เมื่อวิตินญ่าซัดไกล 20 หลา เสียบคานประตูเข้าไปอย่างสวยงาม ตีเสมอเป็น 1-1
สเปอร์สกลับมาขึ้นนำอีกครั้งในนาทีที่ 5 ของครึ่งหลังจากโคโล มูอานี ซึ่งลงโทษสโมสรต้นสังกัดด้วยการซัดลูกยิงซ้ำเข้าไปหลังจากที่อาร์ชี เกรย์ ยิงชนเสาประตู
วิตินญ่าไม่ย่อท้อ ตีเสมอได้อย่างงดงามอีกครั้งด้วยลูกยิงสุดสวยด้วยเท้าซ้ายโค้งจากริมกรอบเขตโทษ ผ่านมือกูกลิเอลโม วิคาริโอ เข้าไป
ไม่กี่นาทีต่อมา ในนาทีที่ 59 ฟาเบียน รุยซ์ ก็ยิงให้เปแอสเชขึ้นนำเป็นครั้งแรกในเกมนี้ ด้วยการจ่ายบอลอันเฉียบคมของชูเอา เนเวส เข้าไปอย่างใจเย็น
เจ้าบ้านดูเหมือนจะปิดท้ายเกมได้สำเร็จเมื่อวิลเลียน ปาโช สไลด์ลูกเตะมุมที่ป้องกันได้ไม่ดีในนาทีที่ 65
อย่างไรก็ตาม โคโล มูอานี ยิงตีไข่แตกให้ท็อตแนมในอีกเจ็ดนาทีต่อมาด้วยลูกยิงสุดสวย นำไปสู่ประตูปิดท้ายที่น่าหวาดเสียว
ช่วงเวลาดราม่ามาถึงจุดสูงสุดในนาทีที่ 76 เมื่อ VAR ตรวจพบว่าคริสเตียน โรเมโร แฮนด์บอล ทำให้เปแอสเชได้จุดโทษ วิตินญ่าก้าวขึ้นมาอย่างมั่นใจ คว้าแฮตทริกสุดประวัติศาสตร์ ส่งวิคาริโอไปผิดทาง
ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ลูกัส เอร์นานเดซ ได้รับใบแดงตรงจากจังหวะศอกใส่ชาบี ซิมอนส์ แต่ท็อตแนมไม่มีเวลาฉวยโอกาส
เปแอสเชยังคงรักษาฟอร์มเก่งไว้ได้และคว้าชัยชนะอันน่าจดจำ 5-3 โดยผลงานอันยอดเยี่ยมของวิตินญ่าคือไฮไลท์สำคัญที่ไม่อาจปฏิเสธได้ในการแข่งขันแชมเปียนส์ลีกสุดคลาสสิกอีกครั้ง















