ทีมชาติสเปนกลายเป็นแชมป์ยูโร 2024 เมื่อวันอาทิตย์หลังจากเอาชนะอังกฤษ 2-1 ในรอบชิงชนะเลิศที่สนามกีฬาโอลิมปิกในกรุงเบอร์ลิน ตอนนี้ชาวสเปนชนะการแข่งขันเป็นครั้งที่สี่ในประวัติศาสตร์
ผลการแข่งขันยุติความหวังของอังกฤษในการคว้าแชมป์รายการสำคัญเป็นครั้งแรกในรอบ 58 ปีเมื่อพวกเขาคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกในปี 1966 และยังหมายความว่าตอนนี้อังกฤษแพ้รอบชิงชนะเลิศในยุโรปติดต่อกันหลังจากแพ้อิตาลีในรอบชิงชนะเลิศยูโร 2020 จากการดวลจุดโทษ
ครึ่งแรกยังสบายๆ และจืดชืด โดยมีโอกาสน้อยมากที่ระหว่าง อูไน ไซมอน และ จอร์แดน พิคฟอร์ด ยืนแทนทีมเมื่อถูกเรียกตัว แต่ทีมสเปน ขึ้นนำทันทีหลังพักครึ่ง โดย ลามีน ยามาล ส่ง นิโก้ วิลเลียมส์ ขึ้นนำบอลผ่านจอร์แดน พิคฟอร์ด.
แกเร็ธ เซาธ์เกต ลงสนามทันที แทนที่แฮร์รี เคน ที่ทำอะไรไม่ได้ในเกมนี้ โดนส่ง โอลลี่ วัตกินส์ และนำโคล พาลเมอร์ของเชลซีเข้ามาแทนฟิล โฟเด้น
ไม่นานนักอังกฤษก็ตีเสมอได้จาก จู๊ด เบลลิงแฮมและบูกาโย ซาก้าสลับกันจ่ายบอล ก่อนที่ชายอาร์เซนอลจะจ่ายโคล พาลเมอร์ จะซัดเข้าไปในนาทีที่ 67
จู๊ด เบลลิงแฮม ยังได้มีโอกาสพลิกตัวและหมุนตัวไปริมกรอบเขตโทษก่อนจะซัดบอลต่ำผ่านเสาไปติดป้ายโฆษณา
ไม่นานหลังจากนั้นทีมสเปนก็ยิงประตูชัยโดยเหลือเวลาอีกสามนาที มาร์ค กูคูเรลลา ทะลุบอลทางปีกซ้ายก่อนจะจ่ายบอลเข้าเขตโทษให้มิเกล โอยาร์ซาบัล ที่ชาร์จบอลเข้าไป
แกเร็ธ เซาธ์เกต ผู้จัดการทีมทีมชาติอังกฤษ พูดถึงช่วงเวลาของเขาในฐานะโค้ชทีมชาติอังกฤษ ซึ่งมีการพูดคุยกันตลอดการแข่งขัน และผู้จัดการทีมก็ปฏิเสธที่จะเรียกช่วงเวลานั้นกับทีมทรีไลออนส์
“ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่ผมจะพูดเกี่ยวกับเรื่องนั้น ผมต้องพูดคุยกับคนที่เหมาะสมและให้เวลาตัวเองสักหน่อย” เซาธ์เกต กล่าว