อาร์เซนอลได้เริ่มการหารือภายในเบื้องต้นเกี่ยวกับการขยายความจุของสนามเอมิเรตส์ สเตเดียม โดยอาจใช้สนามเวมบลีย์เป็นสนามเหย้าชั่วคราวระหว่างที่ดำเนินการก่อสร้าง
แผนการดังกล่าวยังอยู่ในขั้นเริ่มต้น โดยมีเป้าหมายเพื่อหาวิธีปรับปรุงและขยายสนามเหย้าอายุ 20 ปีของสโมสรให้ทันสมัย
ปีหน้าจะครบรอบสองทศวรรษนับตั้งแต่อาร์เซนอลย้ายจากไฮบิวรีมายังเอมิเรตส์ และสโมสรกำลังพิจารณาวิธีที่ดีที่สุดในการก้าวให้ทันทีมคู่แข่งในพรีเมียร์ลีกที่ปัจจุบันมีสนามขนาดใหญ่กว่า
มีรายงานว่าการหารือดังกล่าวรวมถึงทางเลือกในการปรับเปลี่ยนรูปแบบที่นั่ง ซึ่งอาจเพิ่มจำนวนที่นั่งได้อีกหลายพันที่นั่ง
ปัจจุบันเอมิเรตส์มีความจุ 60,704 ที่นั่ง ทำให้เป็นสนามฟุตบอลที่ใหญ่เป็นอันดับห้าของอังกฤษ โอลด์แทรฟฟอร์ดของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดยังคงเป็นสนามที่ใหญ่ที่สุด โดยมีความจุ 74,879 ที่นั่ง ตามมาด้วยสนามกีฬาท็อตแนมฮ็อทสเปอร์ (62,850 ที่นั่ง) สนามกีฬาลอนดอนของเวสต์แฮม (62,500 ที่นั่ง) และสนามแอนฟิลด์ของลิเวอร์พูล (61,276 ที่นั่ง)
การเล่นที่เวมบลีย์กลายเป็นทางเลือกที่เป็นไปได้ หากการก่อสร้างหรือการพัฒนาใหม่ส่งผลกระทบต่อความสามารถของอาร์เซนอลในการจัดการแข่งขันที่เอมิเรตส์
แนวคิดนี้สอดคล้องกับข้อตกลงที่ท็อตแนมฮ็อทสเปอร์ได้ทำไว้ระหว่างการปรับปรุงสนามกีฬาระหว่างปี 2017 ถึง 2019 ซึ่งพวกเขาได้ใช้สนามเวมบลีย์เป็นสนามเหย้าชั่วคราว
แม้ว่าจะยังไม่มีกรอบเวลาหรือข้อเสนอที่ชัดเจน แต่เชื่อว่าผู้บริหารของสโมสรกำลังพิจารณาความเป็นไปได้ทั้งในด้านการเงินและโลจิสติกส์ของโครงการดังกล่าว
การขยายใดๆ จะต้องสร้างสมดุลระหว่างประสบการณ์ของแฟนๆ รายได้จากการแข่งขัน และเป้าหมายด้านโครงสร้างพื้นฐานระยะยาว
คาดว่าแฟนบอลจะได้รับแจ้งข้อมูลอย่างต่อเนื่องในขณะที่การหารือดำเนินไป โดยการตัดสินใจใดๆ จะต้องผ่านการปรึกษาหารือกับหน่วยงานท้องถิ่นและตัวแทนของแฟนๆ
ในตอนนี้ ศักยภาพในการขยายทีมของอาร์เซนอลสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของสโมสรที่จะรักษาความสามารถในการแข่งขันทั้งนอกสนามและในสนาม
ปัจจุบัน “เดอะกันเนอร์ส” รั้งตำแหน่งจ่าฝูงของตารางพรีเมียร์ลีก หลังจากเอาชนะเวสต์แฮม ยูไนเต็ด 2-0 เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา และแพ้เชลซี 2-1 ที่สแตมฟอร์ด บริดจ์ เมื่อวันเสาร์
พวกเขาจะกลับมาลงสนามอีกครั้งในวันที่ 18 ตุลาคม ในเกมลอนดอนดาร์บี้แมตช์กับฟูแล่ม หลังช่วงพักเบรกทีมชาติ