เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ ใช้เวลาน้อยกว่า 10 นาทีในการทำประตูแรกของเขานับตั้งแต่กลับมาเล่นฟุตบอลระดับสโมสรหลังจบ ฟุตบอลโลก เมื่อเขายิงประตูชัยในเกมที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เอาชนะ ลิเวอร์พูล 3-2 เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา
ปัจจุบัน ฮาแลนด์ เป็นผู้ทำประตูสูงสุดในพรีเมียร์ลีกด้วยผลงาน 18 ประตูและ 3 แอสซิสต์ในเกมพรีเมียร์ลีก 13 เกม และอยู่ในรายชื่อขณะที่เป๊ป กวาร์ดิโอลา เริ่มต้นการผสมผสานระหว่างผู้เล่นทีมชุดใหญ่และเยาวชน
ผู้เล่นของซิตี้บางคนที่เล่นในฟุตบอลโลกกลายเป็นผู้เล่นตัวจริง โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้เล่นที่ทีมชาติไปไม่ถึงรอบก่อนรองชนะเลิศ
มานูเอล อาคันยี่ ของสวิตเซอร์แลนด์, นาธาน อาเก้ กองหลังชาวดัตช์, อายเมริค ลาปอร์ต ของสเปน และ โรดรี้ ออกสตาร์ท เควิน เดอ บรอยน์ และอิลคาย กุนโดกัน ซึ่งทีมชาติต่างพลาดตกรอบ 16 ทีมสุดท้ายในฟุตบอลโลก ก็ให้ความสำคัญตั้งแต่ออกสตาร์ทเช่นกัน
แจ็ค กรีลิช ของอังกฤษ, ฟิล โฟเดน, จอห์น สโตน และ แบร์นาร์โด้ ซิลวา ต่างก็ปรากฏตัวแทน
ลิเวอร์พูล มี ดาร์วิน นูเนซ เป็นผู้เล่นฟุตบอลโลกเพียงคนเดียวในรายชื่อผู้เล่นตัวจริง แม้ว่าฟาบินโญ่ และ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน จะลงเป็นตัวสำรองก็ตาม
ในขณะเดียวกัน ประตูของ ฮาแลนด์ ในนาทีที่ 10 ทำให้เกิดประตูขึ้นนำเมื่อ ฟาบิโอ คาร์วัลโญ่ ตีเสมอได้ใน 10 นาทีต่อมา ขณะที่ทั้งสองฝ่ายจบครึ่งแรกเสมอกัน
ครึ่งหลังเริ่มลุกเป็นไฟเมื่อ ริยาด มาห์เรซ ยิงประตูในนาทีที่ 47 ของเขาโดย โมฮัมเหม็ด ซาลาห์ ในนาทีต่อมา
ประตูของ นาธาน อาเก้ ก่อนหมดชั่วโมงตัดสินทุกอย่างเมื่อ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ผ่านเข้าสู่รอบก่อนรองชนะเลิศ ซึ่งพวกเขาจะเผชิญหน้ากับ เซาแธมป์ตัน
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะพบกับ ชาร์ลตัน ขณะที่ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ จะพบกับ วูล์ฟส์ ขณะที่ นิวคาสเซิ่ล จะต้อนรับ เลสเตอร์
คาราบาว คัพ รอบก่อนรองชนะเลิศ:
แมนฯ ยูไนเต็ด v ชาร์ลตัน
เซาแธมป์ตัน v แมนฯ ซิตี้
ฟอเรสต์ พบ วูล์ฟแฮมป์ตัน
นิวคาสเซิล พบ เลสเตอร์ ซิตี้