เยอรมัน พ่ายเนเธอร์แลนด์ด้วยสกอร์ 4-0 ในเกมที่เนเธอร์แลนด์เสมอกับเยอรมนี 2-2 ในเกมยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก (UNL)
เจ้าภาพยูโร 2024 เริ่มต้นการแข่งขันเนชั่นส์ ลีกด้วยการเอาชนะฮังการี 5-0 เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยลูกทีมของยูเลียน นาเกลส์มันน์ตั้งเป้าที่จะลืมผลงานรอบก่อนรองชนะเลิศในบ้านและกลับสู่ตารางคะแนนสูงสุดของฟุตบอลนานาชาติ
การพบกับออรานเยสในอัมสเตอร์ดัมเป็นบททดสอบครั้งจริงครั้งแรกของเยอรมนีในยุคใหม่ และครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ออรานเยสเอาชนะบอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา 5-2 ในนัดล่าสุด เจ้าภาพแสดงให้เห็นว่าพวกเขาไม่ได้เป็นแค่เรื่องบังเอิญ เพราะพวกเขาขึ้นนำเพียงสองนาทีของเกม
ไบรอัน บร็อบบ์บีย์สร้างเวลาและช่องว่างให้ไรอัน กราเวนเบิร์ชจ่ายบอลให้ทิจจานี เรนเดอร์ส ซึ่งจ่ายบอลผ่านมือมาร์ก-อันเดร แทร์ สเตเก้น ผู้รักษาประตูคนใหม่ของเยอรมนีไปได้ ฟลอเรียน เวิร์ตซ์ ตอบสนองได้แทบจะทันที แต่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ทีมดัตช์ยังคงคุกคามต่อไปในช่วงครึ่งชั่วโมงแรก และลูกทีมของโรนัลด์ คูมันควรจะนำสองประตู แต่ลูกโหม่งของเดนเซล ดัมฟรีส์จากฟรีคิกของชาบี ไซมอนส์ที่หลุดจากกรอบเขตโทษนั้นพลาดเป้า ไซมอนส์ทำได้ดีขึ้นในเวลาต่อมาด้วยความพยายามของตัวเองที่บังคับให้แทร์ สเตเก้นต้องเซฟอย่างหนัก
ก่อนจะจบครึ่งแรก เยอรมนีกลับมาสู่เส้นทางเดิมอีกครั้ง โดยลูกยิงของเวิร์ตซ์ถูกบาร์ต แวร์บรูกเกนเซฟเอาไว้ได้ ก่อนที่เดนิซ อุนดาวจะยิงประตูแรกในนามทีมชาติได้สำเร็จ โจชัว คิมมิช กัปตันทีมเยอรมนีก็ทำประตูได้เช่นกันด้วยการจบสกอร์ที่ยอดเยี่ยมจากการเคลื่อนไหวอันยอดเยี่ยมของทีม
แม้จะเข้าสู่ช่วงพักครึ่งด้วยการเสียเปรียบ แต่เนเธอร์แลนด์ก็กลับมาทำประตูได้อีกครั้งเพียงไม่กี่นาทีหลังจากเริ่มเกมใหม่ ไบรอัน บร็อบบ์บีย์ ซึ่งเป็นตัวการหลักที่สร้างความทรมานให้กับกองหลังชาวเยอรมันในคืนนั้น ได้สกัดกั้นนิโค ชล็อตเตอร์เบ็คในเขตโทษก่อนจะหันหลังแล้วจ่ายบอลให้ดัมฟรีส์โหม่งเข้าประตูไป
ไค ฮาเวิร์ตซ์ของอาร์เซนอลควรจะทำประตูให้กับเยอรมนีได้ แต่เขาไม่สามารถจบสกอร์ด้วยการแตะบอลง่ายๆ ได้