เอฟเวอร์ตันทำผลงานได้อย่างสุดดราม่าด้วยการเสมอลิเวอร์พูลจ่าฝูงพรีเมียร์ลีก 2-2 ในศึกเมอร์ซีย์ไซด์ดาร์บี้แมตช์นัดสุดท้ายที่กูดิสันพาร์ค เกมดังกล่าวเต็มไปด้วยดราม่ามากมาย รวมถึงประตูตีเสมอในนาทีที่ 98 จากเจมส์ ทาร์คอฟสกี้ ซึ่งทำให้แฟนบอลเจ้าถิ่นตื่นเต้นกันสุดๆ
เกมเริ่มต้นได้อย่างยอดเยี่ยมเมื่อเอฟเวอร์ตันขึ้นนำในนาทีที่ 11 จากการจบสกอร์อย่างเฉียบขาดของเบโต้ อย่างไรก็ตาม ลิเวอร์พูลตอบโต้ได้อย่างรวดเร็วด้วยลูกโหม่งสุดสวยของอเล็กซิส แม็ก อัลลิสเตอร์ เพียงห้านาทีต่อมา ครึ่งแรกจบลงด้วยสกอร์ 1-1 โดยเอฟเวอร์ตันโดนตีเสมอเมื่ออิลิมัน เอ็นเดียเย่ สตาร์ของทีมต้องออกจากสนามเนื่องจากได้รับบาดเจ็บ
ครึ่งหลังลิเวอร์พูลขึ้นนำจากประตูของโมฮัมเหม็ด ซาลาห์ ทำให้เขากลายเป็นเจ้าของสถิติผู้เล่นที่มีส่วนร่วมกับประตูในเกมเยือนมากที่สุดในพรีเมียร์ลีกภายในหนึ่งฤดูกาล เอฟเวอร์ตันพยายามสร้างโอกาส แต่ดูเหมือนว่าเกมจะหลุดมือไป อย่างไรก็ตาม ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาทีที่ 8 ทาร์คอฟสกี้ก็ยิงประตูตีเสมอได้อย่างยอดเยี่ยม ส่งให้กูดิสัน ปาร์ค ระเบิดฟอร์ม
ประตูนี้รอดพ้นจากการเช็ค VAR ที่ยาวนาน ทำให้เอฟเวอร์ตันขยายสถิติไม่แพ้ใครในพรีเมียร์ลีกเป็น 4 นัด เกมจบลงด้วยความโกลาหล โดยอับดูลาย ดูกูเร และเคอร์ติส โจนส์ โดนไล่ออกจากสนามหลังเสียงนกหวีดหมดเวลา
แม้จะไม่ชนะ แต่ลิเวอร์พูลก็ยังนำโด่งเป็น 7 แต้มที่จ่าฝูงพรีเมียร์ลีก การเสมอกันครั้งนี้ถือเป็นคืนที่น่าผิดหวังสำหรับลิเวอร์พูล ซึ่งตอนนี้พวกเขาไม่ชนะมาแล้ว 10 นัดจาก 13 นัดหลังสุดที่กูดิสัน ปาร์ค ในทางกลับกัน เอฟเวอร์ตันก็ฉลองผลเสมอสุดดราม่าและน่าจดจำในศึกเมอร์ซีย์ไซด์ดาร์บี้แมตช์นัดสุดท้ายที่กูดิสัน ปาร์ค
เสียงนกหวีดหมดเวลาเป็นการบอกเหตุของการปะทะกันในสนามหลายครั้ง ซึ่งอับดูลาย ดูกูเร และเคอร์ติส โจนส์ ปะทะกันในการเฉลิมฉลอง ในขณะเดียวกัน อับดูลาย ดูกูเร อาร์เน่ สล็อต และเคอร์ติส โจนส์ ของลิเวอร์พูล ก็โดนใบเหลืองใบที่สองไล่ออกจากสนามเช่นกัน ขณะที่เกิดการแย่งชิงบอลกันบนสนาม
เจมส์ ทาร์คอฟสกี้ ผู้ทำประตูของเอฟเวอร์ตัน ดีใจกับชัยชนะครั้งนี้
“ฟังเสียงจากอัฒจันทร์สิ มันน่าทึ่งมาก พวกเขาจะต้องจดจำมันได้ ผมภูมิใจในทีมของผม พวกเขาไม่ยอมแพ้ง่ายๆ พวกเขา (ลิเวอร์พูล) ไม่สามารถสร้างสรรค์อะไรได้มากนัก และสุดท้ายเราก็ได้ประตู” เขากล่าว