วิลเลียน เอสเตเวา นักเตะดาวรุ่งพุ่งแรงของเชลซี กำลังตกเป็นข่าวเชื่อมโยงกับการย้ายทีมอีกครั้ง หลังจากที่อังเดร คูรี เอเยนต์ของเขา เผยว่ายังมีความเป็นไปได้ที่จะย้ายไปบาร์เซโลน่าในอนาคต
ข้อเสนอนี้เกิดขึ้นไม่ถึง 24 ชั่วโมงหลังจากที่ดาวเตะวัย 18 ปีโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมในเกมที่เชลซีเอาชนะบาร์เซโลนาของฮันซี ฟลิค 3-0 ในแชมเปี้ยนส์ลีก ที่สแตมฟอร์ด บริดจ์ ซึ่งเขาทำประตูได้เหนือกว่าลามีน ยามาล เพื่อนร่วมทีมดาวรุ่ง
เอสเตเวา เริ่มต้นชีวิตในแชมเปี้ยนส์ลีกได้อย่างยอดเยี่ยมในฤดูกาลแรกของเขาในอังกฤษ ประตูที่เขาทำได้ในเกมกับบาร์เซโลนาทำให้เขาเป็นผู้เล่นอายุน้อยที่สุดอันดับสองในประวัติศาสตร์ รองจากคีเลียน เอ็มบัปเป้ ที่ยิงประตูได้ในการลงเล่นเป็นตัวจริงในแชมเปี้ยนส์ลีกสามนัดแรก
นักเตะชาวบราซิลรายนี้กล่าวถึงชัยชนะครั้งนี้ว่าเป็น “ช่วงเวลาพิเศษ” โดยกล่าวว่าเขารู้สึกซาบซึ้งและตื้นตันใจกับการสนับสนุนจากแฟนๆ เชลซีและครอบครัวที่เฝ้าดูเขาอยู่บนอัฒจันทร์
แม้จะประสบความสำเร็จกับเชลซี แต่ความชื่นชมที่ เอสเตเวา มีต่อบาร์เซโลนามาอย่างยาวนานยังคงเป็นแรงผลักดันให้เกิดกระแสข่าวลือเกี่ยวกับการย้ายทีมในอนาคต
คูรีเปิดเผยว่าสโมสรในแคว้นกาตาลันได้เจรจาหลายครั้งเพื่อเซ็นสัญญากับดาวรุ่งรายนี้ระหว่างปี 2021 ถึง 2024 แต่ไม่สามารถบรรลุข้อตกลงได้เนื่องจากข้อจำกัดทางการเงิน
เอเยนต์เผยว่า ทีมงานฝ่ายเทคนิคของบาร์เซโลนาอนุมัติการย้ายทีมครั้งนี้แล้ว แต่เดโก้ไม่สามารถทำให้สำเร็จได้เนื่องจากปัญหาเศรษฐกิจของสโมสร
ก่อนหน้านี้ เอสเตเวา เคยกล่าวไว้ว่าการเล่นให้บาร์เซโลนาคือ “ความฝันที่ยิ่งใหญ่ที่สุด” ของเขา เพราะเขาเติบโตมากับลิโอเนล เมสซี, เนย์มาร์ และหลุยส์ ซัวเรซ
แม้จะยอมรับถึงความสุขของลูกค้าที่เชลซี แต่คูรียืนยันว่าเอสเตวายังคงมี “ความรักใคร่พิเศษ” ต่อบาร์เซโลนา และเปิดโอกาสให้มีการย้ายทีมในอนาคต
เอเยนต์ยังแนะนำว่า เอสเตเวา และลามีน ยามาลสามารถประสบความสำเร็จในทีมเดียวกันได้ จนถูกนำไปเปรียบเทียบกับคู่หูระดับตำนานอย่างเนย์มาร์และเมสซ
การเติบโตอย่างรวดเร็วของ เอสเตเวา ยังได้รับคำชื่นชมจากเอ็นโซ มาเรสกา ผู้จัดการทีมเชลซี ซึ่งสะท้อนถึงความเชื่อมั่นของราฟินญาที่ว่าเอสเตวาโอและยามาลอาจกลายเป็นเมสซี่และคริสเตียโน โรนัลโดคนต่อไปในยุคของพวกเขา
อย่างไรก็ตาม มาเรสกาเตือนว่าอย่ากดดันนักเตะดาวรุ่งเหล่านี้มากเกินไป โดยเน้นย้ำว่าพวกเขาต้องได้รับการพัฒนาตามจังหวะของตัวเอง
ตอนนี้เชลซีหันกลับมาโฟกัสที่พรีเมียร์ลีกอีกครั้ง ซึ่งพวกเขาเตรียมตัวสำหรับเกมกับอาร์เซนอล ทีมจ่าฝูงที่สแตมฟอร์ด บริดจ์ ในวันอาทิตย์















