ฤดูกาล 2025 อาจจะเหลือเวลาอีกสองเดือนก่อนที่จะเริ่มต้นอย่างเป็นทางการ แต่ในช่วงปิดฤดูกาลนี้ก็มีเรื่องน่าตื่นเต้นมากมายให้แฟนๆ ได้ตั้งตารอ ปี 2024 เป็นปีที่ยอดเยี่ยมและถือได้ว่าเป็นฤดูกาลที่ดีที่สุดในรอบหลายปี ปี 2025 กำลังจะเริ่มต้นขึ้นจากประสบการณ์นั้นและมีอะไรให้คาดหวังอีกมากมาย
สิ่งสำคัญอย่างหนึ่งที่แฟนๆ และผู้ที่ชื่นชอบ F1 ทุกคนจะต้องจับตามองก็คือ ลูอิส แฮมิลตัน จะปรับตัวเข้ากับบ้านใหม่ของเขาอย่าง เฟอร์รารี่ ได้ดีเพียงใด แชมป์โลก 7 สมัยรายนี้ตกเป็นข่าวหน้าหนึ่งก่อนเริ่มต้นฤดูกาลที่แล้ว หลังจากที่เขาเปิดเผยว่าได้เซ็นสัญญากับทีมจากอิตาลีแล้ว ซึ่งเป็นสัญญาณว่าฤดูกาล 2024 จะเป็นฤดูกาลสุดท้ายของเขากับ เมอเซเดส
เฟอร์รารี่ จบฤดูกาลที่แล้วด้วยอันดับสาม โดยทำการปรับปรุงรถของพวกเขาได้อย่างมาก หากพวกเขาสามารถปรับปรุงสิ่งที่มีอยู่แล้วให้ดีขึ้น พวกเขาอาจจะสามารถผลิตรถที่สามารถให้ ลูอิส แฮมิลตัน คว้าแชมป์ได้เป็นสมัยที่แปด
นอกจากนี้ ทุกสายตายังจับจ้องไปที่ เมอเซเดส เพื่อดูว่าพวกเขาจะรับมือกับสถานการณ์ที่ไม่มี ลูอิส แฮมิลตัน ซึ่งคว้าแชมป์ได้ถึงหกสมัยระหว่างอยู่กับพวกเขาได้อย่างไร ทั้งแฮมิลตันและเมอร์เซเดสต่างก็ได้รับประโยชน์จากการทำงานร่วมกันอย่างยาวนานและปีแรกที่พวกเขาแยกทางกันหลังจาก 12 ฤดูกาล
เมื่อปีที่แล้ว เราได้เห็นคู่แข่งที่ดุเดือดระหว่างเรดบูลล์และแม็คลาเรน และแฟนๆ คาดว่าฤดูกาลนี้จะเข้มข้นขึ้น แม็กซ์ เวอร์สแตปเพนคว้าแชมป์โลกสมัยที่สี่ แต่หลังจากต้องต่อสู้กับแลนโด นอร์ริสในหลายการแข่งขัน ความเป็นคู่แข่งระหว่างทั้งสองส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุบนสนามแข่ง
แม้ว่าตอนนี้สถานการณ์จะคลี่คลายลงแล้ว แต่ก็อาจแย่ลงได้อย่างรวดเร็วหากทั้งสองทีมไม่สามารถหาทางคว้าแชมป์กันอย่างสันติ
จะเป็นเรื่องที่น่าสนใจเช่นกันที่จะได้เห็นว่าเรดบูลล์จะทำผลงานได้ดีเพียงใดในฤดูกาลนี้โดยไม่มีเซร์คิโอ เปเรซนั่งตำแหน่งอื่น ทีมตัดความสัมพันธ์กับเปเรซหลังจากผลงานที่ย่ำแย่ในปี 2024 ซึ่งทำให้เสียแชมป์ผู้ผลิตเป็นสมัยที่สามติดต่อกัน แทนที่เปเรซด้วยเลียม ลอว์สัน อดีตนักขับสำรองของเรดบูลล์
ทีมอื่นๆ ก็มีการเปลี่ยนแปลงนักขับเช่นกัน โดยคิก เซาเบอร์เข้ามาแทนที่นักขับทั้งสองคน นี่แสดงให้เห็นว่าทีมต่างๆ กำลังทำในสิ่งที่พวกเขาเห็นว่าจำเป็นเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับฤดูกาลใหม่ เร็วๆ นี้ จะมีการประกาศเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ และแฟนๆ จะได้เห็นรถยนต์ที่จะลงแข่งในปี 2025 เป็นครั้งแรก