หากเอ่ยถึงความร้อนแรงในวงการเทคบอลชั่วโมงนี้ ตั้งแต่ปฏิทินก้าวเข้าสู่ปี ค.ศ .2023 ชื่อของ ซาบา บานยิค (Csaba Bányik) จากแดนม็อจยอร์ หรือ ฮังการี อยู่ในขวบปีที่ทะลักเดือดอย่างมากในระดับโลก โดยเฉพาะประเภทชายคู่ที่เขาลงเล่นกับพาร์ทเนอร์อย่างบาลาซส์ แคตซ์ (Balázs Katz) ซึ่งทั้งสองคนผนึกกำลังด้วยการผงาดคว้าแชมป์ยุโรปในรายการเทคบอล ยูโรเปี้ยน เกมส์ 2023 ซึ่งจัดการแข่งขันในระดับทวีปเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของกีฬาชนิดนี้
ความยอดเยี่ยมของ “บานยิค” ทำให้เขาก้าวขึ้นมาติดอยู่ในอันดับท็อป 5 ของการจัดอันดับโลก และไม่ใช่เรื่องเกินจริงนักที่เขาจะเป็นหนึ่งในนักกีฬาเทคบอลที่มีความโดดเด่นจากผลงานที่เคยทำมาก่อนหน้านี้รวมถึงฟอร์มอันร้อนแรงในปัจจุบัน และนี่คือเบื้องหลังทุกเรื่องราวในหลายแง่มุมของเขา ที่เราอยากนำมาแบ่งปัน
จุดเริ่มต้นและชีวิต
“ผมได้รับการแนะนำให้รู้จักกับกีฬา เทคบอล (Teqball) ในปี ค.ศ. 2015 ที่มหาวิทยาลัยด้านพลศึกษา และศึกษาอยู่ที่นั่น ซึ่งตั้งแต่ใน 1 ปีก่อนหน้าเป็นต้นมา พวกเขาจัดการแข่งขันเทคบอลทุกปี ซึ่งผมได้เข้าร่วมในปีที่ 2 ที่จัดแข่งขันคู่กับ อดัม บลาซโซวิคซ์ (Adam Blazsovics) เพื่อนของผม และเราทั้งคู่ก็เริ่มจริงจังกับมันมากขึ้น”
นักเทคบอลชาวฮังการีวัย 29 ปีปัจจุบัน เท้าความถึงอดีตและจุดเริ่มต้นกับ FITEQ ก่อนจะเสริมว่า ตัวเขาเองเริ่มเล่นกีฬาชนิดอื่นมาก่อนหน้านี้ โดยช่วงวัยเด็ก เขาลงเล่นยูโดมาเป็นเวลานาน 7 ปี ก่อนที่จะเปลี่ยนมาเล่นกีฬายอดนิยมอย่างฟุตบอล ซึ่งเขาเปิดเผยว่า ในวัยเด็กเขาเป็นแฟนบอลของโรนัลดินโญ่ ซูเปอร์สตาร์ลูกหนังจอมเทคนิคชาวบราซิล และเป็นหนึ่งในนักฟุตบอลที่เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ของกีฬาเทคบอลด้วย รวมถึงอีกหนึ่งคนในตำแหน่งผู้รักษาประตูคือ ปีเตอร์ เช็ก ที่เป็นนักกีฬาคนโปรดของเขาเช่นกัน
บานยิค มองถึงลักษณะพิเศษของกีฬานี้ว่า ไม่ใช่เพียงแค่คนยุโรปเท่านั้น แต่เกือบทุกคนมีความชื่นชอบกีฬาฟุตบอล ซึ่งกีฬานี้ได้นำความแปลกใหม่มาใส่เพิ่มเติมลงไปเล็กน้อยในความเห็นของเขา เพราะกีฬาฟุตบอลมีความสวยงามของตัวมันเองจนกลายเป็นประเพณี แต่ก็มีข้อเสียคือ บางเกมเราอาจไม่เห็นการทำประตูด้วยซ้ำใน 90 นาที แต่ใน “เทคบอล” นั้นมีจุดดีตรงที่การทำสกอร์จะมาในทุก ๆ 30 วินาที และมีความใกล้เคียงกับการเล่นฟุตบอลที่คนทั่วไปก็สามารถมีส่วนร่วมได้
ตามที่เขากล่าวคือ นักกีฬาที่มีพื้นฐานมาจากกีฬาฟุตบอลมักมีเทคนิคที่ดีกว่าในการควบคุมลูกบอลลงโต๊ะ เพราะกีฬาชนิดนี้มี 2 สิ่งที่สำคัญมากที่จะนำมาปรับใช้กับกีฬาเทคบอลคือ ความคล่องตัวและทักษะพื้นฐานกับการเล่นกับบอล ทำให้ส่วนผสมนี้จึงลงตัว แม้ว่าจะมีนักกีฬาที่มีภูมิหลังมาจากชนิดกีฬาอื่น ๆ เช่นกันอย่างกีฬาประเภทต่อสู้ ปิงปอง หรือฮ็อกกี้น้ำแข็ง
นอกจากการเป็นนักกีฬาแล้ว บานยิค ยังมีความมุ่งมั่นที่จะมีส่วนร่วมในการพัฒนาวงการกีฬาเทคบอล โดยแบ่งปันจากประสบการณ์ของเขาถึงวิธีการในการเตรียมการ
“ช่วงที่โควิดระบาดไปทั่วโลก ผมมีความคิดอยากจะเขียนหนังสือเกี่ยวกับระเบียบวิธี เนื่องจากผมเรียนในมหาวิทยาลัยพลศึกษามาหลายปี ซึ่งผมน่าจะใช้อะไรสักอย่างมาปรับใช้ ผมสอนรุ่นน้อง และเคยเป็นโค้ชทีมฟุตบอล แต่ผมจะไม่เปรียบเทียบธรรมชาติของการฝึกซ้อมกับกีฬาฟุตบอล แต่มันจะมีความคล้ายกับกีฬาปิงปอง อย่างไรก็ดี สำหรับผม มันไม่มีอะไรที่เหมือนกับเทคบอล”
“นอกเหนือจากนี้ ในส่วนของยุทธวิธี เราจะแก้ไขด้วยการดาวน์โหลดแมตช์แข่งขัน ก่อนจะนำมาวิเคราะห์พวกเขา หรือคู่แข่งขันบนเครื่องบิน เพื่อวางกลยุทธ์สำหรับการแข่งขันครั้งต่อไป และทำให้ทุกคนจะได้รักษาสภาพความฟิตของตัวเอง”
ทว่าในความเป็นจริงปัจจุบัน กีฬา “เทคบอล” ยังไม่สามารถสร้างรายได้จำนวนมาก เพื่อให้นักกีฬาสามารถทำเงินได้อย่างอิสระ ทำให้สิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ก็เป็นเหมือนกับชะตากรรมของกลุ่มนักกีฬารุ่นบุกเบิก ซึ่ง บานยิค ก็ต้องพยายามอย่างหนักจนถึงตอนนี้ ก่อนที่ชีวิตสามัญชนของเขาก็เพิ่งพลิกผันได้ไม่นานมานี้
เปลี่ยนแปลง และตัดสินใจ
“ผมลาออกจากงานเมื่อเดือน มิ.ย. 2023 ไม่ใช่เพราะว่า ผมจะสามารถหาเลี้ยงชีพจากเทคบอลได้ แต่เนื่องจากมีการแข่งขันจากต่างประเทศมากมายรอเราอยู่จนทำให้การแบ่งเวลากับงานประจำมันไปด้วยกันไม่ได้”
“นอกจากนี้ ผมเพิ่งเริ่มลงเรียนด้านกฎหมายที่จะเริ่มในเดือนนี้ (กันยายน 2023) ซึ่งผมก็คงทำควบคู่กับแข่งขัน แต่จริง ๆ แล้ว ผมก็ร่วมงานกับ ‘เทคบอล’ มาตลอด โดยล่าสุดเป็นผู้จัดงานให้กับสมาคมกีฬา E-Sport ของฮังการี ซึ่งส่วนใหญ่ราว 80 % ผมก็ทำงานจากที่บ้าน เนื่องจากบางครั้งหากมีการแข่งขันจัดขึ้นที่สหรัฐอเมริกา ผมก็ต้องตื่นตอนตี 2 เพื่อเข้าร่วมการประชุมออนไลน์ ซึ่งในระยะยาว ผมอยากจะเป็นทนายความด้านกีฬา หรือทูตด้านกีฬา และมันคงจะรู้สึกฟินสุด ๆ ไปเลย ถ้ามันเกิดขึ้นภายในวงการเทคบอล”
เรียกได้ว่าในส่วนชีวิต บานยิค ต้องผ่านการพยายามและเปลี่ยนแปลงมาไม่น้อย ทำให้เขาไม่กลัวที่จะต้องตัดสินใจในช่วงเวลาที่ยากลำบาก ดังเช่นการตัดสินใจแยกทางกับอดัม บลาซโซวิคซ์ พาร์ทเนอร์ประเภทชายคู่ที่ร่วมเล่นและเริ่มต้นมาพร้อมกันตั้งแต่สมัยเรียนในมหาวิทยาลัย และมาผนึกกำลังกับบาลาซส์ แคตซ์ เพื่อไปสู่ผลแห่งความสำเร็จ หรือแนวทางใหม่ ๆ
“ทุกวันนี้เรายังคงเป็นเพื่อนที่ดีต่ออดัม แต่เราได้ตัดสินใจแยกทางกันสักพักเพื่อดูว่าเป็นยังไงต่อไป เราไม่ได้ผลการแข่งขันตามที่คาดหวัง เพราะก่อนหน้านั้นเราไม่แพ้ใครเลย นอกจากนักเทคบอลดูโอชาวเซอร์เบีย ช่วงประมาณ 4-5 ปี ก่อนที่ในการแข่งขันครั้งล่าสุดของเราทั้งคู่และครั้งก่อนหน้านั้น เราก็เริ่มพ่ายแพ้ต่อนักกีฬารุ่นใหม่ในประเทศ ซึ่งมันไม่ใช่รสชาติที่ดีเลย ทำให้เราตัดสินใจที่จะเปลี่ยน แต่ว่าสิ่งนี้มันก็ยังอยู่ในส่วนผสมที่เราจะรวมตัวกันอีกครั้งในอนาคต”
dafanews รายงานว่า บานยิค ที่พลาดการแข่งขันในศึกชิงแชมป์โลกปีที่แล้ว แต่ฟอร์มปีนี้เขากำลังก้าวกระโดดไปอย่างรวดเร็วตั้งแต่เส้นทางรอบคัดเลือก และสามารถคว้าชัยชนะได้ทั้งประเภทคู่ และคู่ผสมที่ทั้งสองรายการ ซึ่งเขายังหวังว่าหากไม่มีอาการบาดเจ็บใด ๆ เขาจะอยู่ที่นั่นในศึกชิงแชมป์โลก 2023 (จัดที่ประเทศไทย 29 พ.ย. – 3 ธ.ค. 2023)
อย่างไรก็ตาม เขายังไม่อยากพูดถึงโอกาสของเขาที่นั่น อย่างน้อยก็จนกว่าการแข่งขันเอเชียทัวร์จะครบกำหนดในช่วงปลายฤดูร้อน ซึ่งเขาจะได้เผชิญหน้ากับทีมชาติไทยที่เขาไม่ได้พบอีกเลยตั้งแต่ทัวร์นาเมนต์ที่ดูไบ ซึ่งโดยส่วนตัวเขาเชื่อว่าผู้เล่นประเภทหญิงของไทยแข็งแกร่งกว่าและสามารถสร้างความท้าทายที่ยิ่งใหญ่กว่าในประเภทคู่ผสม แต่เขายังจำได้ว่า พวกเขาก็ต้องออกแรงเสียเหงื่ออย่างหนักเช่นกันในการพบกับนักกีฬาชายคู่จากไทยในรอบชิงชนะเลิศที่ดูไบ
นั่นจึงได้สะท้อนผ่านผลงานของเขาและ แคตซ์ ในประเภทชายคู่ที่โดดเด่นและสร้างประวัติศาสตร์ไม่แพ้ให้ใครมาอย่างยาวนาน 11 รายการติด เพราะจากการเก็บสถิติการแข่งขันในปี ค.ศ. 2023 ประเภทชายคู่ที่เขาทั้งคู่ลงแข่งขันนั้นสามารถคว้าชัยชนะได้ถึง 79 นัดและแพ้เพียง 2 นัดเท่านั้น (สถิติจนถึง ก.ย.2023)
dafanews รายงานว่า ชัยชนะ 3 ใน 79 นัดนั้นก็คือการชนะนักเทคบอลชายคู่ของไทยที่ปราบคู่ม็อจยอร์อันตรายไม่ลงในประเภทนี้เสียที .!!
นอกจากนี้ เขายังตั้งข้อสังเกตอีกว่า ตัวเขาเองชอบเล่นประเภทคู่มากกว่า ไม่ว่าจะเป็นประเภทชายคู่ หรือคู่ผสม เพราะความสามารถของเขาจะโดดเด่นกว่า เนื่องจากตัวเขาเองมองว่า ฟอร์มของตัวเขาค่อนข้างมีปัญหาในประเภทเดี่ยวจากส่วนสูงของเขาที่มีความสูงถึง 1.91 ซม. ซึ่งตรงจุดนี้ถือว่ามีความสอดคล้องกับการจัดอันดับโลกล่าสุด (ก.ย.2023) ของ FITEQ
– อันดับ 6 ของโลก ประเภทชายเดี่ยว
– อันดับ 3 ของโลก ประเภทชายคู่
– อันดับ 1 ของโลก ประเภทคู่ผสม
อนาคตของเทคบอล
ซาบา บานยิค มองว่า “เทคบอล” ยังคงเป็นกีฬาที่มีอายุน้อยจากการเพิ่งเริ่มต้น ซึ่งแผนภูมิในการแข่งขันระดับนานาชาติจะยังคงเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาและให้ความเห็นว่า
“ฉันคาดหวังจะเห็นการเปลี่ยนแปลง อย่างเช่นในช่วงประมาณ 12-18 เดือนที่ผ่านมา เรามองเห็นสัญญาณแรกที่แสดงว่าชาวเอเชียเป็นคนดี ฉันคาดหวังว่าชาวบราซิลจะก้าวกระโดดมากยิ่งขึ้นไปอีก เพราะปัจจุบันยังมีค่อนข้างน้อย และนักกีฬาจากที่นั่นไปแข่งขันในทัวร์นาเมนต์ที่สหรัฐอเมริกา หรือยุโรป เนื่องจากเหตุผลเรื่องของการเงิน”
“ปีที่แล้ว ผมได้รับเชิญกับซาเนตต์ ยานิเซค (Zsanett Janicsek) ให้ไปร่วมงานที่ริโอ ซึ่งเราพบว่ามีผู้คนชาวบราซิลนับไม่ถ้วนที่มีระดับการเล่นที่เก่งสุด ๆ เราเห็นบรรดาเด็ก ๆ เก่งจนแทบไม่อยากจะเชื่อสายตา แต่ว่าพวกเขาไม่สามารถแข่งขันได้ เพราะจำเป็นต้องแบ่งปันรองเท้ากัน แม้แต่วิดีโอในอินสตาแกรม เราก็ไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้เลย เพราะพวกเขาแทบไม่มีเงินไปเที่ยว ไม่ต้องพูดถึงการไปยุโรปเลย แต่ถ้าหากมีใครเริ่มสนับสนุนพวกเขา พวกเขาจะเป็นคู่แข่งขันที่ควรระวัง…”
นอกจากนี้ เขาเสริมว่า กีฬาเทคบอลกำลังดำเนินไปในทิศทางที่ถูกต้อง แต่เขาสามารถจินตนาการถึงการแข่งขันที่มีเพิ่มมากขึ้น ซึ่งก็มีความเป็นไปได้ไม่ใช่เพียงแค่ในระดับภูมิภาคเท่านั้น แต่สามารถพัฒนาไปในระดับสากล
ขณะเดียวกัน เขายังยอมรับว่า ตัวของเขารู้สึกโชคดีเพราะสมาคม Taksonyi Teqball ที่เพิ่งก่อตั้งขึ้นได้รับการสนับสนุนจากบริษัทอุตสาหกรรมก่อสร้างที่มีความจริงจัง ซึ่งหมายความว่า พวกเขาจะสามารถเข้าร่วมการแข่งขันได้เกือบทุกที่ในโลก
ส่วนประเด็นการแข่งขันหลังจากยูโรเปี้ยน เกมส์ เขาก็ให้ความเห็นถึงทิศทางที่ “เทคบอล” กำลังมุ่งหน้าไปได้ เช่น การจัดแข่งขันแบบกลางแจ้ง ซึ่งก็อาจมีทั้งดีและข้อเสีย เพราะหากทิศทางนี้ยังคงอยู่ หลายคนก็อาจจะเปลี่ยนยุทธวิธีเนื่องจากมีปัจจัยด้านสภาพอากาศเป็นตัวแปร โดยเฉพาะบทบาทของลมที่จะส่งผลต่อการแข่งขัน แต่สิ่งหนึ่งที่เขาจะไม่มีวันลืมเลยก็คือ เรื่องของบรรยากาศการแข่งขัน
“ด้านสภาพแวดล้อมของวงการเทคบอล ฉันคาดหวังไว้ว่า มันคงเป็นเรื่องน่าทึ่ง หากได้เห็นมหกรรมกีฬาที่ยิ่งใหญ่อย่างโอลิมปิก ที่มีนักกีฬา 8,000 คน พร้อมด้วยหมู่บ้านนักกีฬา อย่างที่เราเห็นในทีวี เหมือนกับในช่วงระหว่างการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกที่โตเกียว ทุกสิ่งล้วนสวยงาม การทำงานร่วมกับองค์กร และแนวทางที่คณะกรรมการโอลิมปิกของฮังการีคอยช่วยเหลือเราอยู่เสมอ ทำให้นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันได้รับเหรียญรางวัลที่ไม่ใช่เพื่อสโมสรหรือตัวฉันเอง แต่เพื่อประเทศของฉัน”
“มันคงเป็นความรู้สึกที่ยกระดับจิตใจอย่างมาก ไม่มีที่สิ้นสุด เพราะสำหรับเรา มันคือการเล่นเพื่อความสำเร็จให้กับประเทศของเรา แต่ในระหว่างนี้คุณก็ลงแข่งขันชิงแชมป์โลก หรือรายการอื่นของโลกเพื่อคว้าความสำเร็จ และมันคงไม่น่าเชื่อมาก หากได้ลงแข่งขันต่อหน้าคนมากกว่า 65,000 คน”
สุดท้ายนี้ บานยิค ได้สรุปแนวความคิดของเขา และเป้าหมายของตัวเองเขาในวงการเทคบอลว่า
“ผมจะเล่นให้นานที่สุดเท่าที่ร่างกายของผมจะรับได้ และต้องมาดูกันว่าจะได้นานสักแค่ไหน แต่ผมกำลังเตรียมตัวอย่างแข็งขันสำหรับชีวิตที่จะตามมาหลังจากเลิกเล่น ไม่ว่าจะเป็นการฝึกสอน หรือการจัดการด้านกีฬา ซึ่งผมก็ทำควบคู่ไปด้วยในฐานะประธานของ Phoenix Teqball Academy ซึ่งเป็นสมาคมที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในโลกแห่งหนึ่งจนถึงตอนนี้ รวมถึงการมีอาชีพด้านกฎหมายที่ผมพอจะจินตนาการได้ภายในวงการเทคบอลเช่นกัน”
dafanews เว็บข่าวกีฬา อันดับต้นๆ ของประเทศ อัพเดทข่าวสาร กีฬา เทคบอล ฟุตบอล เทนนิส บาสเก็ตบอล มวย อีสปอร์ต ทัวร์นาเมนต์ทั่วโลก dafabet เปิดเดิมพันกีฬา ทุกแมตช์ สดและล่วงหน้า การันตีค่าน้ำดีที่สุด dafabet การันตีเงินชนะ 100% เดิมพันบอล เช็คผลกีฬา ผลบอลสด ดูถ่ายทอดสด ได้ทุกลีกทั่วโลกที่ dafabet