DafaNews รายงานว่า หลังจากมีการก่อตั้งสมาคมกีฬาเทคบอลแห่งประเทศไทยขึ้นเมื่อปี 2021 “โค้ชโอ๊ต” เรวัต ผาบชมภู อดีตนักกีฬาตะกร้อทีมชาติไทย ก็ได้รับการทาบทามให้มาทำหน้าที่ผู้ฝึกสอนกีฬาเทคบอลแบบไม่คาดคิด ซึ่งเจ้าตัวก็ตอบตกลงในทันทีทั้งที่ยังไม่มีแผนอะไรในหัวด้วยซ้ำ และจนถึงตอนนี้ “โค้ชโอ๊ต” ยอมรับว่า จะเป็นเพราะพรหมลิขิต ความบังเอิญ โชคชะตา หรือจังหวะชีวิตก็คงไม่สำคัญแล้ว เพราะเหนือสิ่งอื่นใด ณ เวลานี้ โค้ชโอ๊ตมีกีฬาเทคบอลเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตไปแล้ว เนื่องจากกีฬาชนิดนี้ทำให้เจ้าตัวเกิดความท้าทายใหม่ๆ ในชีวิตของการเป็นโค้ชมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการเรียนรู้กติกา เทคนิคการเล่น การถ่ายทอดความรู้ และการสร้างทัศนคติที่ดีให้กับนักกีฬา
“ประมาณ 3 ปีที่แล้ว มีการก่อตั้งสมาคมกีฬาเทคบอลแห่งประเทศไทยขึ้นมา มี พลเอก รณชัย มัญชุสุนทรกุล เป็นนายกสมาคม ท่านก็ได้มอบหมายให้ทีมงานหาโค้ชเพื่อไปฝึกให้กับนักกีฬา ตอนนั้นทางสมาคมก็เลือกมา 4 คน มี “โค้ชโจ้”สมศักดิ์ ดวงเมือง, “โค้ชอ๊อด” วีระชัย แสงสว่าง, “โค้ชแนน” ศิรินภา พรหนองแสน แล้วก็ตัวผม คือทุกคนใหม่หมด เริ่มเรียนรู้จากศูนย์ พอเริ่มจับต้นชนปลายได้ก็เริ่มเฟ้นหานักกีฬาเข้ามา ก็หาจากที่เราคุ้นเคยก็คือนักกีฬาตะกร้อ พอรวมทีมได้ไม่นาน ก็เจองานใหญ่เลยครับ เพราะปี 2022 ถัดจากรายการชิงแชมป์ประเทศไทย สมาคมก็ส่งไปแข่งชิงแชมป์โลกที่เยอรมันเลยครับ ทีนี้โค้ชโจ้กับโค้ชอ๊อดไม่ว่างทั้งคู่ ผมกับโค้ชแนนก็เลยได้คุมทีมไป ซึ่งตอนนั้นมีเวลาเตรียมทีมจริงๆจังๆแค่ 10 วันเองครับ ผลงานนักกีฬาเราตกรอบหมด แต่ก็ถือว่าทำให้ทั่วโลกได้รู้จักทีมเทคบอลไทย”
นอกจากจะล้มเหลวในศึกชิงแชมป์โลกที่เยอรมันแล้ว โค้ชโอ๊ตยังได้รับคำปรามาสจากทีมเทคบอลฮังการี ต้นตำรับของกีฬาชนิดนี้ว่าอย่างน้อยๆคงต้องใช้เวลาอีก 3-5 ปี ที่ทีมเทคบอลไทยจะเอาชนะทีมเขาได้ ซึ่งคำพูดนี้เองที่ทำให้โค้ชโอ๊ตตั้งใจกลับมาศึกษารูปแบบและเทคนิคการเล่นอย่างลึกซึ้งกว่าเดิม มีการปรับกลยุทธ์นำเทคนิคกีฬาตะกร้อซึ่งเป็นจุดแข็งของนักกีฬาไทยมาใช้ เพื่อหวังจะพิสูจน์ว่าทีมไทยคงไม่ต้องใช้เวลานานขนาดนั้นที่จะเอาชนะฮังการี และสุดท้ายโค้ชโอ๊ตก็ทำได้จริง เมื่อใช้เวลาเพียง 3 เดือน ปรับจูนเสริมแต่งก่อนจะพาทีมชาติไทยเอาชนะทีมฮังการีได้ในในรายการ “ดูไบ เอเชี่ยน เทคบอล ทัวร์ 2023” ที่สหรัฐอาหรับเอมิเรสต์ แถมไทยยังเข้าชิงชนะเลิศทุกประเภทอีกด้วย ต่อด้วยกีฬาสาธิตในมหกรรมกีฬาซีเกมส์ 2023 ที่กัมพูชา, เทคบอลทัวร์ 2023 ที่เมืองชิงเต่า ประเทศจีน และเทคบอลทัวร์ เกาะสมุย 2023 ที่ประเทศไทย ซึ่งแต่ละรายการทีมเทคบอลไทยสามารถโชว์ผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมแบบก้าวกระโดด จนเป็นที่จับตามอง
“หลักการสอนของผม นอกจากจะสอนเทคนิคต่างๆ ให้กับนักกีฬาแล้ว ยังต้องสอนให้พวกเขามีความกระหายในชัยชนะ รู้วิธีสื่อสารกับลูกทีมอย่างถูกต้อง เพื่อดึงศักยภาพที่มีอยู่ในตัวออกมา มีความคิดเปิดกว้าง โค้ชต้องไม่หยุดเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ใส่ใจทุกรายละเอียด เพื่อผลักดันนักกีฬาให้ประสบความสำเร็จ และได้ชัยชนะกลับมา ซึ่งเรามีดีที่พื้นฐานกีฬาตะกร้อ ตรงนี้ได้เปรียบชาติอื่น เพราะเทคบอลจะต้องมีครบทุกทักษะ ทั้งการรับลูก ชงลูก ความว่องไว ไหวพริบ แล้วเรามีอาวุธเด็ดก็คือการกระโดดฟาด เราเน้นที่เท้าเป็นหลัก ตรงนี้ทางสหพันธ์เทคบอลนานาชาติแก้ไขกติกามาใหม่ ซึ่งทีมเราทำได้ดีกว่าต่างชาติ ก็เข้าทางเรา”
แน่นอนว่าภารกิจสำคัญของโค้ชโอ๊ต ที่กำลังจะมาถึงก็คือ ศึกเทคบอลชิงแชมป์โลกครั้งที่ 6 รายการ “World Teqball Championships 2023” ระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน -3 ธันวาคมนี้ ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ ซึ่งไม่เพียงแต่จะเป็นการคุมทีมเล่นในบ้านต่อหน้าแฟนกีฬาชาวไทย แต่นี่ยังเป็นเกมส์ระดับโลกที่ถือเป็นเป้าหมายสูงสุดของโค้ชโอ๊ตในการโชว์ศักยภาพของตัวเองในฐานะผู้ฝึกสอน ซึ่งแน่นอนว่าเป้าหมายของโค้ชโอ๊ตก็คือ การพาทีมเทคบอลไทยทั้ง 12 คนคว้าเหรียญทองประเภทใดประเภทหนึ่งจาก 5 ประเภทคือ เดี่ยวชาย, เดี่ยวหญิง, คู่ชาย, คู่หญิง และคู่ผสม ซึ่งสภาพทีมล่าสุดตอนนี้ทุกคนมีความพร้อมร้อยเปอร์เซ็นต์
“นักกีฬาของเราที่เก็บตัวชุดนี้มีทั้งหมด 12 คน ชาย 6 คน หญิง 6 คน ทุกคนพร้อมมาก ครั้งนี้ก็ถือเป็นครั้งที่สองของทีมเทคบอลไทยตั้งแต่ผมเข้ามาคุมทีม ถ้านับเฉพาะรายการชิงแชมป์โลก ครั้งที่แล้วผมเคยคุมทีมไปแข่งที่เยอรมันเมื่อปี 2022 ครั้งนั้นทีมไทยถือว่าใหม่มาก ส่วนการแข่งขันที่ไทยในครั้งนี้ ผมตั้งเป้าไปถึงการพาทีมคว้าแชมป์โลกให้ได้ เพราะจากศักยภาพและผลงานที่พัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่อง ผมเชื่อว่านักกีฬาของเราทำได้ แต่เพื่อไม่กดดันนักกีฬาผมก็จะไม่อยากระบุว่าเป็นประเภทไหน ก็อยากให้แฟนๆชาวไทยมาเชียร์กันเยอะๆนะครับ มาร่วมสร้างประวัติศาสตร์ไปด้วยกันครับ”
DafaNews สำหรับอนาคตของวงการเทคบอลไทย โค้ชโอ๊ต เปิดเผยว่า กำลังไปในทิศทางที่ดีขึ้นเรื่อยๆ โดยล่าสุดกรมพลศึกษาได้เปิดอบรมผู้ฝึกสอนและผู้ตัดสินกีฬาเทคบอลขึ้นมาโดยเฉพาะ เพื่อให้เพียงพอต่อจำนวนนักกีฬา นอกจากนี้ยังมีแนวโน้มว่าจะบรรจุในวิชาเรียนอีกด้วย ขณะเดียวกันใน มหกรรมกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ที่ประเทศไทย จะเป็นเจ้าภาพในปี 2025 ก็เตรียมบรรจุ เทคบอล เข้าไปในการชิงชัยเหรียญรางวัล ครบครั้ง 5 ประเภท ซึ่งก็ได้รับการยืนยันว่าไม่น่าจะมีปัญหา ขณะที่กีฬาแห่งชาติ และกีฬาเยาวชนแห่งชาติก็จะเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการแจ้งเกิดนักกีฬาดาวรุ่ง ที่สำคัญทางสหพันธ์เทคบอลนานาชาติยังมอบโต๊ะเทคบอลให้กับประเทศไทยอีกด้วย ซึ่งองค์ประกอบทั้งหมดนี้จะทำให้วงการเทคบอลไทยแข็งแกร่งขึ้นอย่างไม่หยุดยั้ง และไม่แน่ว่าในอนาคตเราอาจจะได้เห็นเทคบอล ได้มีโอกาสบรรจุในมหกรรมกีฬาโอลิมปิกเกมส์เช่นกัน
“สำหรับกีฬาเทคบอลตอนนี้ ทางสหพันธ์เทคบอลนานาชาติพยายามที่จะส่งเสริมให้หลายๆชาติหันมาเล่นกันเยอะๆ เพื่อโอกาสบรรจุในกีฬาโอลิมปิก เฉพาะในอาเซียนตอนนี้ก็เล่นกันหลายประเทศทั้งมาเลเซีย, อินโดนีเซีย, สิงคโปร์, ฟิลิปปินส์, กัมพูชา, เมียนมาร์ แล้วก็ไทย อย่างที่ประเทศไทยเอง ทางสหพันธ์ก็มอบโต๊ะเทคบอลผ่านทางกรมพลศึกษามาให้ลองเล่น แถมทางกรมพลศึกษาก็ยังจัดอบรมทั้งโค้ช ทั้งผู้ตัดสินอีกด้วย ซึ่ง ณ ปัจจุบันเราอาจจะยังมีตัวเลือกนักกีฬาไม่มากนัก แต่ถ้าเริ่มแข่งขันกันมาตั้งแต่ระดับกีฬาแห่งชาติ หรือกีฬาเยาวชนแห่งชาติ มีผลงานของนักกีฬารุ่นพี่ในระดับนานาชาติมาเป็นแรงบันดาล รับรองว่าอีกไม่กี่ปีเราจะนักกีฬาเทคบอลเก่งๆให้เลือกเหลือเฟือเลยครับ และในระยะเวลาใกล้ๆนี้ ศึกชิงแชมป์โลกที่บ้านเรานี่เลยครับ เชื่อว่าถ้าน้องๆเยาวชนได้เห็นพี่ๆทีมชาติไทยเล่น น่าจะมีหลายคนที่อยากลอง ถ้าสนใจก็ติดต่อสมาคมมาได้เลยครับ”
แน่นอนว่าการที่ประเทศไทยได้เป็นเจ้าภาพเทคบอลชิงแชมป์โลกครั้งที่ 6 “World Teqball Championships 2023” ระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน – 1 ธันวาคม 2566 ณ อินดอร์สเตเดียม หัวหมาก และระหว่างวันที่ 2-3 ธันวาคม ณ สนามกีฬาบางกอกอารีน่า นอกจากผลงานของทีมนักกีฬาไทยแล้ว นี่ยังจะเป็นโอกาสในการพัฒนา หรือกำหนดทิศทางของวงการเทคบอลไทยในอนาคตได้เช่นกัน
DafaNews เป็นเว็ปไซต์กีฬาออนไลน์แบบครบวงจรที่คุณสามารถค้นหาข่าวประจำวันของคุณในโลกแห่งกีฬา DafaNews นำเสนอข่าวเด่นข่าวดังทุกวงการกีฬาเพื่อให้คุณได้รับอัพเดตวันต่อวันกับแมตช์, สกอร์, ตารางแข่งขัน และเรื่องราวล่าสุดจากลีกและกิจกรรมที่มีชื่อเสียงที่สุดทั่วโลก