ในวันที่ความพยายามอยู่ที่ไหน ความพยายามก็ยังอยู่ที่เดิม ไม่สำเร็จอย่างที่ตั้งใจสักที ย่อมทำให้หลายๆคนท้อและถอดใจในที่สุด แต่สำหรับ “หยก” จุฑาทิพย์ กันทะธง แล้ว เธอเลือกที่จะสู้และสู้จนถึงที่สุด แม้ความพยายามบนถนนสายตะกร้อนานกว่า 10 ปี จะยังไปไม่ถึงฝันก็ตาม
“หยกจำความได้ ก็เห็นพ่อเดินสายเล่นตะกร้อในจังหวัดลำพูน ทีนี้ก็อยากเล่นบ้าง พ่อก็เลยเอาลูกตะกร้อมาผูกเชือกให้เดาะเล่นๆ ตั้งแต่หยกอายุประมาณ 5 ขวบ แต่ตอนนั้นหยกไม่ได้อยากเดาะเล่นๆ อยากเล่นเป็น อยากเล่นเก่งเหมือนพ่อ ก็เลยฝึกมาเรื่อยๆ จนมาเริ่มเล่นจริงจังตอนอายุ 12 ขวบค่ะ ซึ่งความฝันของหยกไม่ใช่แค่เล่นในจังหวัดแบบพ่อนะ ความฝันของหยกคือการติดทีมชาติ อยากมีธงไตรรงค์ที่หน้าอกเสื้อ อยากแข่งขันในนามประเทศไทย แต่มันไม่ง่ายเลย หลายคนมองว่าหยกตัวเล็กสูงแค่ 150 เซนติเมตร แต่หยกอยากจะบอกว่าหยกรู้จุดอ่อนตรงนี้ดี ก็เลยพยายามฝึกซ้อมหนักกว่าคนอื่นหลายเท่า พยายามพิสูจน์ตัวเอง พยายามสู้ อดทน แต่มันก็ได้แค่เล่นงานถ้วยฯ ในประเทศเท่านั้น ถามว่าเสียใจมั้ย ก็เสียใจ แต่ไม่เคยหยุดซ้อม ก็หวังว่าซักวันเราจะได้รับโอกาสนั้น”
แม้โอกาสในฐานะนักกีฬาตะกร้อทีมชาติไทยจะไร้วี่แวว แต่ดูเหมือนว่า ความพยายามของ “หยก” จะไม่สูญเปล่า โดยในปี 2563 “โค้ชอ๊อด” อ.วีระชัย แสงสว่าง ได้ให้โอกาสเธอได้ลองมาเล่น “กีฬาเทคบอล” กีฬาที่ “หยก” เองก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเล่นยังไง หน้าตาเป็นแบบไหน และตัวเองจะเล่นได้หรือเปล่า แต่ด้วยคำพูดของ อ.อ๊อดที่ว่า “ถ้าลองมาเล่น อาจจะเป็นโอกาสที่ดี และอาจจะติดทีมชาติ” ทำให้ “หยก” ไม่รีรอที่จะรับปากทันที เพราะนี่แหละ คือสิ่งที่อดทนรอมาทั้งชีวิต
dafanews รายงานว่า “คำว่าทีมชาติ ทำให้หยกตอบตกลงทันทีค่ะ เพราะมันคือความฝันของเรา แล้วพอมาลองเล่นครั้งแรกก็รู้สึกว่า “เทคบอล” เป็นกีฬาที่สนุก มีความท้าทาย เพราะมันต้องใช้ความคิดเยอะ ต้องใจเย็นมากๆเวลาเล่น แต่ด้วยทักษะการเตะ โหม่ง เดาะ ฟาดลูกตะกร้อที่เรามี มันสามารถนำมาประยุกต์เข้ากับกีฬาเทคบอลได้ ก็ทำให้เรียนรู้ได้ไว และเป็นข้อได้เปรียบสำหรับนักกีฬาไทย”
เพียงไม่นานที่เบนเข็มมาเล่นกีฬาเทคบอล ความฝันของหยกเป็นจริง เมื่อได้มีโอกาสเป็นตัวแทนทีมชาติไทยครั้งแรกในชีวิต กับการแข่งขันเทคบอลชิงแชมป์โลก 2022 ที่ประเทศเยอรมนี ซึ่งหยกลงแข่งขันประเภทเดี่ยวหญิง และผ่านเข้าถึงรอบก่อนรองชนะเลิศ แม้จะไม่ได้เหรียญรางวัลติดมือกลับบ้าน แต่นี่คือจุดเริ่มต้นของการไล่ล่าความสำเร็จที่ได้จุดประกายขึ้นในหัวของนักกีฬาเทคบอลสาววัย 25 ปีคนนี้ ซึ่งหยกเปรียบเทียบว่า การติดทีมชาติครั้งนี้ มันเป็นเหมือนการวิ่งเข้าเส้นชัยของชีวิต แม้จะยังไม่ใช่ที่ 1 หรือยังไม่ได้เหรียญรางวัลก็ตาม
“พูดแล้วน้ำตาจะไหล มันขนลุกตั้งแต่ที่ได้ใส่เสื้อที่มีธงชาติติดหน้าอกแล้วค่ะ แล้วได้ไปเมืองนอกด้วยก็ยิ่งดีใจ พอเดินลงไปในสนาม โอ้โหสุดจะบรรยาย มันอลังการมาก มันทั้งตื้นตันใจ ตื่นตาตื่นใจ มันภูมิใจ คิดถึงหน้าพ่อหน้าแม่ที่บ้าน ภาพตอนที่เราซ้อมตะกร้อหนักๆมาหลายปีมันวูบเข้ามาในหัว แล้วก็คิดในใจว่านี่แหละคือที่ของเรา นี่แหละคือกีฬาที่จะสร้างชื่อเสียงให้เรา และนี่แหละคือสิ่งที่เรารอคอยมาตลอดทั้งชีวิต จากนั้นก็ใส่ไม่ยั้งเลยค่ะ แต่ด้วยประสบการณ์ก็เลยทำดีที่สุดแค่รอบ 8 คนสุดท้าย พอจบทัวร์นาเมนต์ก็บอกกับตัวเองอีกครั้งหนึ่งว่า กีฬาเทคบอลทำให้เราเข้าเส้นชัยชีวิตแล้ว เรามาถูกทางแล้ว ต่อไปเด็กบ้านนอกคนนี้จะต้องคว้าเหรียญให้ได้ แบบมันโคตรฮึดเลยค่ะ”
หลังจากได้ชิมลางกับการแข่งขันรายการใหญ่ระดับโลก “หยก” กลับมาฝึกซ้อมอย่างหนัก และในปีนี้ก็ได้รับโอกาสลงแข่งในนามทีมชาติอีก 3 รายการ ซึ่งถือว่าผลงานพัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยหยก จับคู่กับ สุภาวดี วงศ์คำจันทร์ อดีตนักกีฬาตะกร้อเหมือนกัน คว้าแชมป์คู่หญิงได้ทั้ง 3 รายการ เริ่มจากรายการ “ดูไบ เอเชี่ยน เทคบอล ทัวร์ 2023” ที่ ประเทศ สหรัฐอาหรับเอมิเรสต์ ระหว่างวันที่ 2-5 มีนาคม ต่อศึกเทคบอลทัวร์ 2023 ที่เมืองชิงเต่า ประเทศจีน ระหว่างระหว่างวันที่ 4-6 สิงหาคม และรายการเทคบอลทัวร์ เกาะสมุย 2023 ที่ประเทศไทย ระหว่างวันที่ 10-13 สิงหาคม ที่สำคัญเจ้าตัวยังมีรายการใหญ่รออยู่ในช่วงปลายปีนี้ ก็คือการแข่งขันเทคบอลชิงแชมป์โลก 2023 ซึ่งประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพ ระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน- 4 ธันวาคมนี้ ณ อินดอร์สเตเดียม หัวหมาก โดยหยกตั้งเป้าว่า เธอจะต้องคว้าแชมป์โลกให้ได้
“ตอนนี้ซ้อมหนักมาก ซ้อมทุกวัน วันละ 3 เวลา อยากคว้าแชมป์โลกให้ได้ อยากรู้ว่าเวลานักกีฬาคนอื่นเค้าคว้าแชมป์โลกกันมันรู้สึกยังไง อย่างในรายการเอเชี่ยนทัวร์จะไม่มีเดี่ยวให้แข่ง แต่ในชิงแชมป์โลกจะมีเดี่ยวด้วย ซึ่งตามที่โค้ชบอก หยกน่าจะได้ลงทั้งเดี่ยวหญิง และคู่หญิง คิดว่าถ้าเราได้แชมป์โลก มันน่าจะเปลี่ยนชีวิตเราไปในทางที่ดีขึ้นได้ ทั้งอาชีพการงาน ฐานะความเป็นอยู่ อยากมีบ้านให้พ่อแม่ อยากมีงานที่มั่นคง อยากรับราชการ แต่กว่าจะถึงตรงนั้น หยกจะต้องทำหน้าที่ตรงนี้ให้เต็มที่ก่อน ก็หวังว่าที่เราทุ่มเทฝึกซ้อมมาก็น่าจะมีโอกาส ยังไงก็ช่วยติดตามเชียร์หยกและเพื่อนๆพี่นักกีฬาคนอื่นๆด้วยนะคะ”
dafanews รายงานว่า “หยก” จุฑาทิพย์ กันกะทง เป็นลูกสาวคนเดียวของคุณพ่อสุพล และคุณแม่ยุพิน กันทะธง มีภูมิลำเนาอยู่ที่จังหวัดลำพูน เรียนชั้นประถมศึกษาถึงมัธยมต้นที่โรงเรียนเทศบาลประตูลี้ในจังหวัดลำพูน, มัธยมปลายที่โรงเรียนกีฬาจังหวัดนครสวรรค์, ระดับปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ วิทยาเขตชลบุรี และกำลังศึกษาในระดับปริญญาโท ที่มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี ซึ่งก่อนที่เจ้าตัวจะฉลองวันคล้ายวันเกิดครบ 26 ปีเต็มในวันที่ 23 ธันวาคมนี้ หยกบอกว่า คงจะมีความสุขที่สุดหากนักกีฬาตัวเล็กๆอย่างเธอได้ฉลองแชมป์โลกกับครอบครัวก่อน ในช่วงต้นเดือนธันวาคมนี้
dafanews เว็บข่าวกีฬา อันดับต้นๆ ของประเทศ อัพเดทข่าวสาร กีฬา เทคบอล ฟุตบอล เทนนิส บาสเก็ตบอล มวย อีสปอร์ต ทัวร์นาเมนต์ทั่วโลก dafabet เปิดเดิมพันกีฬา ทุกแมตช์ สดและล่วงหน้า การันตีค่าน้ำดีที่สุด dafabet การันตีเงินชนะ 100% เดิมพันบอล เช็คผลกีฬา ผลบอลสด ดูถ่ายทอดสด ได้ทุกลีกทั่วโลกที่ dafabet