บรูโน่ เฟอร์นันเดส กัปตันทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดเผยว่าเขารู้สึกเจ็บปวดกับท่าทีของสโมสรในช่วงที่อัล-ฮิลาล ทีมจากซาอุดีอาระเบียให้ความสนใจอย่างมากเมื่อฤดูร้อนที่ผ่านมา
นักเตะทีมชาติโปรตุเกสกล่าวว่ามันเจ็บปวดที่รู้สึกว่ายูไนเต็ดพร้อมที่จะปล่อยเขาไปหากเขาเลือกที่จะรับข้อเสนอที่ให้ค่าตอบแทนสูงนั้น
มีรายงานว่าอัล-ฮิลาลเตรียมเสนอเงินประมาณ 100 ล้านปอนด์สำหรับนักเตะวัย 31 ปี พร้อมค่าเหนื่อยสูงถึง 700,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ ซึ่งจะทำให้เงินเดือนของเขาเพิ่มขึ้นมากกว่าสองเท่า
เฟอร์นันเดส ซึ่งมีสัญญากับโอลด์แทรฟฟอร์ดจนถึงปี 2027 พร้อมออปชั่นต่อสัญญาอีกหนึ่งปี ปฏิเสธการย้ายทีมในที่สุดเพื่อที่จะอยู่กับยูไนเต็ดต่อไป
ในการให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ Canal 11 ของโปรตุเกส เฟอร์นันเดสได้กล่าวถึงเหตุการณ์ดังกล่าวและบอกว่าสโมสรไม่ได้คัดค้านการย้ายทีมของเขาอย่างจริงจัง
เขาอธิบายว่าสถานการณ์นี้ทำให้เขารู้สึกเศร้า แม้ว่าเขาจะเชื่อมั่นว่าความมุ่งมั่น ความพร้อม และผลงานของเขาที่มีต่อทีมนั้นไม่มีข้อสงสัยใด ๆ นับตั้งแต่เข้าร่วมสโมสร
เฟอร์นันเดสยอมรับว่าการย้ายไปซาอุดีอาระเบียจะนำมาซึ่งผลตอบแทนทางการเงินและโอกาสประสบความสำเร็จในทันที แต่กล่าวว่าการตัดสินใจอยู่ต่อของเขานั้นเกิดจากเหตุผลด้านครอบครัวและความรักที่มีต่อแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดอย่างแท้จริง
เขาย้ำอีกครั้งว่าเขายังต้องการแข่งขันในระดับสูงสุดของวงการฟุตบอล
กองกลางรายนี้ย้ายจากสปอร์ติ้งมาอยู่กับยูไนเต็ดในเดือนมกราคม 2020 ด้วยค่าตัว 47 ล้านปอนด์ และนับตั้งแต่นั้นมาก็กลายเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่มีอิทธิพลมากที่สุดของสโมสร
เขาลงเล่นไปแล้ว 307 นัด ทำได้ 103 ประตู และ 93 แอสซิสต์ ขณะที่ฤดูกาลนี้เขาทำไปแล้ว 5 ประตูและ 7 แอสซิสต์ในพรีเมียร์ลีก
แม้ว่าเฟอร์นันเดสจะให้ความเห็นดังกล่าว แต่แหล่งข่าวระบุว่าแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดไม่มีความต้องการที่จะขายกัปตันทีมของพวกเขา และมองว่าเขาเป็นศูนย์กลางของแผนระยะยาวของสโมสร
สโมสรยืนยันว่าเขายังคงเป็นบุคคลสำคัญภายใต้การคุมทีมของรูเบน อโมริม ซึ่งเป็นผู้มีบทบาทสำคัญในการโน้มน้าวให้เขาอยู่ต่อที่โอลด์แทรฟฟอร์ด















